Friday 30 June 2006

สร้าง Spreadsheet web application ด้วย EBA Grid Version 3

eBusiness Applications (www.ebusiness-apps.com) ออก EBA Grid Version 3 ซึ่งเป็น AJAX-based enterprise software

component แล้ว ดูจากคำขยายน่าจะเดาได้ว่าเป็น component สำหรับพัฒนา web app ซึ่งใช้ AJAX เป็นฐาน ความพิเศษของ EBA คือ
สามารถสร้าง interface ในรูปแบบ spreadsheet ภายใน web app ได้ ช่วยนักพัฒนาสร้าง application ได้เร็วขึ้น และตอบสนองกับผู้ใช้ได้อย่างรวดเร็ว

eBusiness Application อ้างว่า component ของ EBA ทำอะไรได้มากกว่า open-source AJAX framework อื่นๆ เช่น Dojo,
Prototype และ DWR Grid Version 3 จะทำให้ผู้ใช้รู้สึกว่ากำลังใช้ desktop software เลยทีเดียว

EBA Grid V3 มี feature สำคัญ คือ
* AJAX Databinding - เชื่อมต่อกับ database (เช่น MySQL, SQL Server, DB2, Oracle) และสร้าง dataset
* AJAX Sorting - เรียงลำดับข้อมูลของ spreadsheet โดยการคลิกที่หัวคอลัมน์
* Live Scrolling - scroll ดู dataset ใน web browser ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่กระทบกับประสิทธิภาพโดยรวม
* Copy & Paste into Excel - Copy and paste ข้อมูลหรือ cell ระหว่าง Excel กับ cell ของ spreadsheetได้
* In-place cell editing - มี built-in editor อย่าง Auto-Complete, Textbox, Checkbox, และ Listbox เพื่อแก้ไขข้อมูลใน cell เหมือน
ที่มีใน Excel
* Auto-Save - save ข้อมูลเข้า database แบบ realtime (ไม่จำเป็นต้องรอให้ผู้ใช้กดปุ่ม save เอง)
* Configurable Toolbar - สร้างปุ่ม shortcut บน toolbar ได้
* Master-Detail presentation - แสดงข้อมูลในรูปแบบ drill-down
* Keyboard Navigation - ควบคุม navigation โดยใช้ keyboard และ Hot Key
* Freeze & Resize columns - ปรับขนาด column ได้
* Browser support - สนับสนุน Firefox, Camino, Netscape และ Internet Explorer
* Platform support - สนับสนุน Classic ASP และ PHP

feature สุดท้าย น่าเสียดายจริงๆ ที่ไม่สนับสนุน Java แต่ feature อื่นๆ จะเห็นได้ว่ามันสุดยอดมากๆ คือ Excel บนเว็บดีๆ นี่เอง
ใครสนใจจะเอาลองใช้กับ php หรือ asp ดูก่อนก็ download trial version ได้ที่ http://developer.ebusiness-apps.com

http://opensource.sys-con.com/read/242857.htm

Wednesday 28 June 2006

Sun ลุย open-source Java

Sun ประกาศจะ open-source ภายในอีกไม่กี่เดือน

Sun เปิดเผยว่าบริษัทกำลังทบทวน 2 ประเด็นสำคัญ คือ
1. จะรักษา Java ให้ "write once, run anywhere" ได้อย่างไร
2. ทำอย่างไร ไม่ให้บริษัทอื่นใช้อิทธิพลควบคุมตลาดให้ต้องใช้ Java implementation ของตัวเอง

ผู้บริหาร Sun ฝ่าย open-source บอกว่าทั้ง 2 ประเด็น สำคัญอย่างยิ่งที่จะรักษา compatibility ของ Java ไว้ เนื่องจาก Java ประสบความสำเร็จอย่างมากใน open market มีหลายบริษัทที่ใช้ผลิตภัณฑ์ Java ของบริษัทอื่น การเปลี่ยนแปลงที่ทำให้ Java มี compatibility จะให้เกิดขึ้นไม่ได้เด็ดขาด

Sun ประกาศเมื่อเดือนพฤษภาฯ ที่ผ่านมาว่าจะ open-source Java หลังจากที่ Jonathan Schwartz เข้ามาเป็น CEO ของ Sun แทน Scott McNealy ได้เพียง 1 เดือน อย่างไรก็ตาม ก็มีผู้บริหารหลายคนภายใน Sun ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจครั้งนี้ ก้าวสำคัญครั้งนี้ของ Sun ซึ่งอาจชี้เป็นชี้ตาย Java จะลงเอยอย่างไร คงต้องจับตาดูกันต่อไป

ที่มา http://pcworld.co.nz/pcworld/pcw.nsf/feature/345F26B3AD75831BCC25719A00756D47

Tuesday 27 June 2006

Oracle ออก PeopleSoft Enterprise 9

Oracle ออก PeopleSoft Enterprise 9 application suite ซึ่งเวอร์ชันนี้มีการ upgrade เพื่อให้รองรับ service-oriented architecture (SOA) Oracle ซื้อ PeopleSoft ในราคา 10.3 พันล้านเหรียญ เมื่อมกราคม ปีที่แล้ว ครั้งนี้ Oracle ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับลูกค้า PeopleSoft ว่าจะยังคง support PeopleSoft Enterprise ต่อไป

เวอร์ชันนี้รวมเข้ากับ Oracle's Fusion Middleware เพื่อให้สามารถใช้ Oracle technology อื่นๆ ได้ดีขึ้นทั้ง XML Publisher, Business Activity Monitoring และ Customer Data Hub Oracle อ้างว่าได้เพิ่ม feature ใหม่ๆ เกี่ยวกับ ระบบการจัดการ ,การเพิ่มประสิทธิภาพCRM และ enterprise-level planning นอกจากนี้ยังได้ขยายความสามารถของ application ให้ครอบคลุมถึงระบบหน่วยงานราชการ, health care, financial services, communications และสถานศึกษา

ก่อนหน้านี้ Oracle เปิดเผยรายละเอียดสำคัญในการรวม application ต่างๆที่ซื้อมาให้อยู่ในผลิตภัณฑ์ตระกูล Fusion โดยจะให้ Siebel's software เป็น CRM app แกนหลัก และรวมกับ function ที่ดีที่สุดจาก Oracle's E-Business Suite, PeopleSoft CRM และJD Edwards CRM (รวมมิตร crm)

Oracle มีเป้าหมายว่า Fusion จะต้องพัฒนาเพื่อให้สนับสนุน SOA และทำงานร่วมกับมาตรฐานสำคัญ เช่น BPEL กับ XML ได้ คาดการณ์ว่า Fusion application จะสมบูรณ์ในปี 2008

ที่มา http://www.cio.com/blog_view.html?CID=22454

Monday 26 June 2006

Spring 2.0 RC1 Released

Spring 2.0 ออก stable version แรกมาแล้ว หลังจากรอคอยอยู่ 6 เดือน และคาดว่าจะออก final version ประมาณเดือนหน้า

Spring 2.0 มี feature หลักคล้ายกับ Java EE vendor อื่นที่สนับสนุน Java EE 5 spec
-Simplified Configuration - การ config application ที่ง่ายขึ้น และเขียนโค้ดน้อยลง
-Powerful AOP Unification - สามารถสร้าง และใช้ aspect โดยใช้ AspectJ ตามหลัก AOP ได้ โดยสามารถใช้ร่วมกับ Spring AOP runtime ได้
-JSR 220 Java Persistence Archtecture (JPA) - มี JPA implementation มาให้ เพื่อเป็นทางเลือกในการติดต่อ database นอกจาก hibernate ที่สนับสนุนอยู่แล้ว
-Asynchronous JMS Messaging - สนับสนุน thread pools เช่น Java 5 ThreadPoolExecutor และ CommonJ WorkManager,
สนับสนุน asynchronous JMS ("Message-Driven POJOs")
-JSR-168 Portlets - มี Spring Portlet MVC เป็น framework สำหรับพัฒนา portlet ซึ่งใช้ร่วมกับ Spring Web Flow

นอกจากนี้ Spring ให้ความสำคัญกับ compatability อย่างมาก ดังนั้น Spring 2.0 จะทำงานเข้ากันได้กับ Spring 1.x ได้อย่างแน่นอน

ที่มา http://www.springframework.org/node/298

Friday 23 June 2006

IBM ออก software เพิ่ม security ให้ Java app

IBM วางแผนออก software เพิ่ม security ใน Java application เพื่อป้องกัน และระบุตัว hacker
software จะช่วย Java dev สร้าง security ในระหว่าง software lifecycle process ตั้งแต่เริ่ม design ซึ่งดีกว่ามานั่งเพิ่ม plug-in แก้ปัญหาเอาภายหลัง นอกจากนี้ software พวกนี้ยังฟรีอีกด้วย ประกอบด้วย

Secure Shell Library for Java(http://www.alphaworks.ibm.com/tech/sshlite) พัฒนาจาก Secure Socket Shell ทำหน้าที่ encrypt ข้อมูลที่ส่งภายในเครื่อข่าย แบบอัติโนมัติ และยังเก็บ password และข้อมูลใน file ด้วย

IBM's Security Workbench Development Environment for Java(http://www.alphaworks.ibm.com/tech/sword4j) ช่วยนักพัฒนา configure และ validate Java app ซึ่งสนับสนุนมาตรฐาน Java และ OSGi(เป็น specification ที่กำหนดเกี่ยวกับ application life cycle model และ service registry) industry security

security ยังเป็นปัญหาสำคัญขององค์กร 60% ขององค์กรในสหรัฐมองว่าอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์(cyber-crime)สร้างความเสียหายกว่า อาชญากรรมทั่วไปและ FBI ก็ประเมินว่า cyber-crime สร้างความเสียหายถึง 62 พันล้านเหรียญ ในปี 2005 ที่ผ่านมา

ที่มา http://www.vnunet.com/vnunet/news/2158939/ibm-gives-away-java-security

Thursday 22 June 2006

Oracle Database Vault เครื่องมือสยบ DBA

Oracle ออก Oracle Database Vault add-on เพื่อช่วยในการจัดการ access control ของผู้ใช้
software นี้ใช้ระบบ security แบบใหมซึ่ง่ช่วยให้สามารถกำหนดสิทธิของ DBA ได้ด้วย

ผู้บริหารของ Oracle บอกว่า โดยปกติผู้ดูแล database(Administrator) จะมีสิทธิพิเศษในการจัดการ database
แต่ว่าในปัจจุบันบริษัทต่างๆ รับรู้ถึงภัยที่เกิดจากการโจมตีจากคนข้างใน(insider attack)ที่มีเพิ่มขึ้น หลายบริษัทจึงพยายามหาวิธีควบคุม DBA ของตัวเอง
Database Vault สามารถควบคุมสิทธิการใช้ database ของผู้ใช้ โดยกำหนดเงื่อนไขได้หลายอย่าง เช่น IP address , เครื่องที่ถูก access,
ช่วงเวลาที่เรียกใช้ ด้วยเงื่อนไขเหล่านี้ทำให้ admin ไม่สามารถแก้ไข database จากเครื่องนอก firewall ของบริษัทได้

Database Vault สามารถสร้างรายงานข้อมูลสิทธิของผู้ใช้ และ log ของการเข้าใช้ database สำหรับให้บริษัทนำไปวิเคราะห์และปรับปรุงสิทธิได้ด้วย
Database Vault ใช้ได้กับ Oracle Database 10g Release 2 ขึ้นไปเท่านั้น ราคา 20,000 เหรียญต่อ 1 CPU หรือ 400 เหรียญต่อผู้ใช้ 1 คน

นอกจากนี้ Oracle ยังออก Oracle Secure Backup ซึ่งเป็น tape backup และ encryption software ถูกออกแบบมาเพื่อทำงานกับ Oracle's
database และ Enterprise Manager software โดยเฉพาะ ใช้ได้กับ Oracle 9i ขึ้นไป ราคา 3,000 เหรียญต่อ tape drive

ที่มา http://www.computerworld.com/securitytopics/security/story/0,10801,110880,00.html

Java 6 Mustang Beta 2

Sun ออก Java Platform Standard Edition 6(Mustang) Beta 2 พร้อมกับมี database(JavaDB) และ gui ใหม่ด้วย Java SE 6 มี feature สำคัญคือ Group Layout component ซึ่งเอามาจาก open-source NetBeans GUI Builder และ JavaDB

นอกจากนี้ Sun ยังประกาศว่าได้ร่วมมือกับ Founder Technology Group และ Lenovo เพื่อจะใส่ JRE (Java Runtime Environment) ลงบน hardware ด้วย ซึ่งจะช่วยให้มี JRE แพร่หลายมากขึ้น โดยก่อนหน้านี้ Sun ก็ได้ทำความตกลงกับ Acer, Apple Computer, Dell Computer, Gateway, Hewlett-Packard, Samsung, Toshiba และ Tsinghua Tongfang ไปแล้ว

Sun ยังขยาย service programs เพิ่มสำหรับ Java SE 6 developer ด้วย คือ Sun Developer Expert Assistance Program (http://developers.sun.com/services/expertassistance/) และ Sun Developer Service Plans (www.sun.com/service/serviceplans/developer/index.html)

ถึงแม้ว่า Java SE 6 ยังอยู่ระหว่างการพัฒนา แต่ Sun ก็ประกาศว่า เริ่มวางแผน และพัฒนา Java SE 7 ภายใต้รหัส Dolphin ไปแล้ว

ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://mustang.dev.java.net

ที่มา http://www.eweek.com/article2/0,1895,1979593,00.asp

Wednesday 21 June 2006

Integrate Java กับ .NET ด้วย WSIT

Sun ประกาศเตรียมออก Web Services Interoperability Technology (WSIT) เพื่อสร้าง web service ที่ทำงานร่วมกันระหว่าง Java กับ .NET framework ได้
WSIT จะเน้นที่ security, messaging, quality of service และ metadata support ซึ่งทั้งหมดจะเป็น open source ผ่าน OpenJava EE community
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Project Glassfish นอกจากนี้ Sun ยังออก NetBeans 5.5 plug-in สำหรับ WSIT มาด้วย

WSIT ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Project Tango (project ทีมีเป้าหมายเพื่อสร้างความเข้ากันได้ระหว่าง Java Platform และ
Microsoft Windows Communication Foundation (WCF) http://java.sun.com/webservices/interop/index.jsp)
ได้รับการทดสอบกับ WCF สามารถใช้ integrate Java application กับ .Net application
Sun วางแผนจะสนับสนุน WSIT ใน Sun Java System Application Server เวอร์ชันหน้า
นักพัฒนาที่ใช้ Java EE SDK 5.0 หรือ Sun Develper Tool และต้องการใช้ WSIT สามารถขอ support ได้ที่
Sun's new Developer Expert Assistance service program http://developers.sun.com/services

WSIT เกิดจากความร่วมมือกันของ Sun และ Microsoft เพื่อให้ WCF- based services และ Java EE 5 based services
สามารถทำงานร่วมกันได้ ช่วยให้ business process สามารถรันได้ทั้งบน Java platform และ the .NET framework
นอกจากนี้ด้วยการ integrate กับ Sun BPEL Engine จะช่วยให้นักพัฒนาสร้าง business logic และ business process ที่ซับซ้อนได้

WSIT สนับสนุน specification หลายอย่าง ทั้ง Quality of Service - WS-Reliable Messaging, WS-Coordination,
WS-Transactions; Security - WS-Security, WSTrust, WS-Secure Conversation, WS-Security Policy; Metadata - WSDL,
XML Schema, WS-Policy, WSMetadata Exchange; และ Messaging - SOAP, WSAddressing,
Message Transmission Optimization Mechanism (MTOM)

Oracle ออก CRM On Demand Release 10

Oracle ออก CRM On Demand Release 10 ซึ่งพัฒนามาจาก Siebel CRM application
CRM On Demand (http://www.oracle.com/ondemand/oracle-crm-on-demand.html)
ประกอบด้วย solution หลายอย่าง เช่น Sales Automation,Marketing Automation,
Analytics/Business Intelligence,Customer Service และContact Center
โดย Oracle ได้ซื้อ Siebel บริษัท CRM ชื่อดัง ด้วยมูลค่า 5.8 พันล้านเหรียญ เมื่อไม่นานมานี้เอง
Oracle ยังอ้างว่า solution เหล่านี้จะช่วยให้ลูกค้า implement CRM เร็วขึ้น และเสียค่าใช้จ่าย 70 เหรียญต่อ ผู้ใช้ 1 คนเท่านั้น

ที่มา http://searchcrm.techtarget.com/originalContent/0,289142,sid11_gci1183188,00.html

Oracle database โดน hacker โจมตีอีก

โดย attack code จะโจมตีผ่านช่องโหว่ของ Oracle database ซึ่งเปิดเผยเมื่อวันพุธที่ผ่านมา
หลังจากที่ Oracle ออก patch ได้ 1 วัน ทาง Symantec ได้เตือนผู้ใช้ผ่านบริการ DeepSight intelligence
(เป็นบริการของ Symantec คอยติดตามเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับ security และเตือนลูกค้า
http://www.symantec.com/Products/enterprise?c=prodinfo&refId=988)

code ถูกเผยแพร่ผ่าน BugTraq security mailing list(http://www.securityfocus.com/archive/1)
และมีเป้าหมายโจมตี Oracle database 10g เพื่อให้ผู้โจมตีได้รับสิทธิ(privileage)สูงขึ้น
Symantec ยังอ้างอีกว่า patch ที่ Oracle ออกเมื่อวันอังคารที่ผ่านมายังไม่สามารถแก้ช่องโหว่ได้ทั้งหมดด้วย

รายละเอียดของช่องโหว่ดูได้ที่ http://www.securityfocus.com/archive/1/431588/30/0/threaded

ที่มา http://news.com.com/Attack+code+out+for+Oracle+database/2100-1002_3-6063518.html

Project jMaki สร้าง AJAX application ด้วย Java

Project jMaki (https://ajax.dev.java.net/) เป็นโปรเจ็กต์สำหรับสร้าง AJAX-Java application นักพัฒนาสามารถใช้ JavaScript ร่วมกับ JSP tag หรือ JSF component ได้ jMaki ใช้ส่วนที่ดีที่สุดของ Java กับ JavaScript เพื่อสร้าง AJAX widget

jMaki สามารถใช้ร่วมกับ ajax library อื่นๆ ได้ เช่น Dojo, Scriptaculus, Yahoo UI Widgets, Spry, DHTML Goodies และ Google โดย jMaki จะมี interface เพื่อเชื่อม widget จาก library ต่างๆ มาสร้าง ui ในหน้า web page เดียวกันได้

สำหรับคนที่ใช้ NetBean 5.5 Sun ได้ออก NetBeans 5.5 jMaki plugin (https://ajax.dev.java.net/jmaki-plugin.html) ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ drag and drop jMaki component ลงบน JSP page ได้โดยตรง

ที่มา http://www.webpronews.com/topnews/topnews/wpn-60-20060620ProjectjMakiMeldsAjaxAndJava.html

Tuesday 20 June 2006

Oracle เปิดตัว SDP ลุยตลาด Telecom

Oracle ออก SDP(service delivery platform) solution สำหรับบริษัทผู้ให้บริการ telecom ในการออกบริการใหม่ๆ ให้ลูกค้า
เช่น VoIP,videoconferencing และบริการข้อมูลต่างๆ
SDP มีเป้าหมายเพื่อช่วยบริษัท telecom วางแผนปรับปรุงระบบ network ให้เข้าเทคโนโลยีใหม่ๆ
Oracle วางแผนงานนี้มาได้สักพักแล้ว หลังจากซื้อบริษัท software ที่ขาย solution สำหรับบริการ telecom
(Portal software เมื่ออาทิตย์ก่อน และ Net4Call ของนอร์เวย์เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา)

SDP ยังไม่สมบูรณ์ทั้งหมด แต่บางส่วนก็ใช้ได้แล้ว เช่น Oracle 10g, application clusters, Oracle TimesTen In-Memory Database,
HotSIPfor IP multimedia subsystems (IMS) และNet4Call ซึ่งสนับสนุน network ระบบเก่า ส่วน feature ใหม่ๆ จะออกภายในปีนี้
ผู้บริหาร Oracle อ้างว่าบริษัท telecom 90% และ 17 บริษัทในบรรดาบริษัทที่ใหญ่ 20 อันดับแรกของโลก ใช้ผลิตภัณฑ์ของ Oracle

ที่มา http://techsearch.cmp.com/blog/archives/2006/04/oracle_aims_to.html?loc=networking_and_telecom

Oracle Event-Driven Architecture(EDA) Suite

Oracle ออก Oracle Event-Driven Architecture(EDA) Suite เพื่อสนับสนุนแนวคิดของ SOA 2.0 โดยจะเป็น feature เสริมของ Oracle Fusion Middleware

ตัว EDA จะช่วยให้ application สามารถ ระบุ,วิเคราะห์ และตอบสนองต่อเหตุการณ์(event) หรือข้อความที่ส่งมาจาก application อื่นได้แบบ real time บริษัทสามารถใช้ EDA เพื่อเชื่อมต่อ app ภายในกับ app ของ partner ได้

EDA ประกอบด้วย
* Oracle Enterprise Messaging -ทำหน้าที่ส่ง event message
* Oracle Enterprise Service Bus - รวบรวม และกระจาย event
* Oracle Business Rules - กำหนด policy ของ event
* Oracle Business Activity Monitoring - ตวจสอบ และวิเคราะห์ event
* Oracle Sensor Edge Server - สนับสนุน RFID และการจัดการ event จาก sensor และอุปกรณ์รับสัญญาณอัติโนมัติ

ที่มา http://weblog.infoworld.com/techwatch/archives/006813.html

Monday 19 June 2006

Sun รวม Java DB เข้ากับ Java 6

Sun ตัดสินใจรวม Java DB database ขนาดเล็กซึ่งพัฒนามาจาก Apache Derby ไว้ใน Java 6 หรือ JDK 1.6 ด้วย

Java DB เป็น open source Java database system หรือ dbms ที่ implement ด้วย Java สนับสนุน transaction, relational database, SQL, JDBC, Java EE, Java ME CDC, triggers, Java stored procedures และ encryptable databases โดยมีขนาดเพียว 2 MB เท่านั้น โดยเป็นการพัฒนาร่วมกันระหว่าง IBM กับ Sun

Java DB ใช้ง่าย และสามารถผูกติดเป็นส่วนหนึ่งของ application ได้ ,ใช้ส่งข้อมูลระหว่าง client/server เพราะเมื่อบีบอัดแล้วจะมีขนาดเพียง 650 KB เท่านั้น ทำให้สามารถ deploy ผ่าน Java Web Start นอกจากนี้ยังฝังตัวไว้กับ web browser ในรูปของ Java plug-inextension ได้อีกด้วย

download Sun's JDK 1.6 Build 88 ได้ที่ http://download.java.net/jdk6/binaries/

ที่มา http://weblogs.java.net/blog/forsini/archive/2006/06/java_db_is_now.html

Saturday 17 June 2006

PHP Integration Kit สร้าง SOA ด้วย PHP

IBM ประกาศเตรียมออก PHP Integration Kit สำหรับสร้าง SOA application โดยจะใช้ร่วมกับ WebSphere Application Server (WAS) Community Edition ช่วยให้นักพัฒนาสามารถใช้ประโยชน์จาก PHP และ Java ร่วมกันได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการ deploy application

PHP เป็น pramming language ยอดฮิต สำหรับสร้าง Web app โดยการรวมกับ Java ครั้งนี้จะช่วยให้ PHP พัฒนา Web 2.0 technology ได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้การใช้ PHP ภายใต้ SOA environment จะช่วยให้บริษัทสามารถสร้างระบบ IT ที่รองรับกับ business goal ให้สอดคล้องกันมากขึ้น

IBM WebSphere Application Server Community Edition เป็น J2EE app server แบบ open-source และฟรี พัฒนามาจาก Apache Geronimo technology ใช้พัฒนา และ deploy Java application

PHP Integration Kit จะให้ download ภายในเดือนนี้ ที่ alphaWorks เว็บของ IBM สาวก php อดใจรออีกหน่อย

ที่มา http://www.cxotoday.com/cxo/jsp/article.jsp?article_id=73941&cat_id=912

Friday 16 June 2006

Oracle ประกาศรวม TopLink กับ Spring Framework

แฟนๆ Spring Framework เตรียมเฮ Oracle ประกาศจะรวม TopLink Essentials ซึ่งเป็น EJB 3.0 Java Persistence API (JPA) เข้ากับ Spring Framework 2.0

Oracle บอกว่า Spring Framework 2.0 ซึ่งเป็น Java/J2EE application framework จะรวม TopLink Essentials เข้าไปด้วยเพื่อสนับสนุน JPA โดยตอนนี้ Oracle กำลังร่วมมือกับ Interface21 บริษัทที่ดูแล Spring เพื่อเพิ่ม JPA เข้าไปใน Spring

Oracle และ Spring technology เพื่อร่วมมือกันเพื่อสร้าง lightweight development framework ซึ่งจะช่วยให้การพัฒนา applicationง่ายขึ้น การรวมกันครั้งนี้จะช่วยนักพัฒนา access ข้อมูลใน database ง่ายขึ้นโดยผ่าน Plain Old Java Objects (POJOs) (แล้ว hibernate จะไปอยู่ไหนล่ะเนี่ย!?)

ที่มา http://weblog.infoworld.com/prodblog/archives/2006/06/oracle_boosting.html

Oracle Enterprise Single Sign-On Suite

Oracle ออก Oracle Enterprise Single Sign-On Suite ช่วยองค์กรในการสร้าง single sign-on และ authentication เพื่อเข้าใช้ mainframe,client/server และ web app

Enterprise Single Sign-On Suite เป็นเทคโนโลยีของ Passlogix บริษัท partner ของ Oracle ช่วยขจัดปัญหาที่ผู้ใช้ต้องมี username/password หลายอันเพื่อเข้าใช้ intranet, portal หรือทรัพยากรของบริษัท software นี้มีประโยชน์อย่างมากกับบริษัทที่มี application เก่า (legacy app) เป็นจำนวนมาก ซึ่งแต่ละ app ใช้ username/password ต่างกันซึ่งสร้างความลำบากให้ผู้ใช้ Oracle บอกว่าบริษัทที่เป็นแบบนี้เยอะเป็นพวกบริษัทการเงิน, healthcare และ telecom

Single Sign-On Suite ประกอบด้วย 5 component
1. logon manager - ช่วยผู้ใช้เข้าใช้ app ต่างๆ จาก username/password เดียว
2. password reset - ใช้แก้ไขข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้
3. authentication manager - ช่วยให้บริษัทสามารถใช้ access control หลายๆแบบร่วมกันได้ เช่น tokens, smart cards, biometrics และ password
4. provisioning gateway - ช่วยบริษัทสร้าง account ให้ผู้ใช้โดยอัตโนมัติ
5. kiosk manager - จัดการด้าน security

software เหล่านี้ใช้ได้ทั้ง oracle และ non-oracle system ส่วนราคายังไม่เปิดเผย

ที่มา http://www.ddj.com/dept/database/189401408

Thursday 15 June 2006

Oracle Content Database และ Oracle Records Database

Oracle ออก tool ใหม่ 2 ตัว ช่วยผู้ใช้จัดการเอกสาร หรือไฟล์ที่ไม่เป็นระเบียบ

Oracle อ้างว่า tool ทั้ง 2 คือ Oracle Content Database (http://oracle.com/database/contentdb.html) และ Oracle Records Database (http://oracle.com/database/recordsdb.html) เป็น software ที่ช่วยจัดการ unstructured content ซึ่งได้แก่ เอกสารของ MS office , pdf, รูปภาพและกราฟิกต่างๆ ซึ่งมีเป็นจำนวนมาก และกระจัดกระจายไม่เป็นระเบียบในองค์กร จากการสำรวจพบว่ามีบริษัทถึง 80% มีข้อมูลที่ไม่เป็นระเบียบ

tool ทั้ง 2 ตัวเป็น software ประเภท ECM (enterprise content management) ซึ่งใช้กันมานานแล้ว แต่ไม่แพร่หลาย เพราะราคาแพง และซับซ้อนบริษัทที่ทำ software แบบนี้ก็เช่น EMC's Documentum, FileNet, Hummingbird, IBM, Interwoven และ Open Text Corp

tool ทั้งสองเป็น option ของ Oracle Database 10g Enterprise Edition และเป็น content และ records management solution แรกที่จัดการข้อมูลต่างๆ ใน database เดียว ช่วยให้องค์กรควบคุม และจัดการ unstructured content ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ได้ง่ายขึ้น

ที่มา http://www.networkworld.com/news/2006/061406-oracle-content-management.html

Wednesday 14 June 2006

JBoss Seam 1.0 Released

JBoss ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Red Hat ไปแล้วประกาศออก JBoss Seam 1.0 framework สำหรับ Web services และ SOA applications

JBoss Seam(www.jboss.com/products/seam) เป็น application framework สำหรับพัฒนา Web 2.0 application โดยได้รวม service oriented architecture (SOA), AJAX ,JSF ,EJB3, Java Portlets และ Business Process Management(BPM) และ workflow ทั้งหมดเข้า ไว้ด้วยกัน

Seam ออกแบบมาเพื่อลดความซับซ้อนของสถาปัตยกรรม Java EE และ API ช่วยให้นักพัฒนาสร้าง web app ด้วย annotated POJOs, UI widget และ xml ได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังทำให้การรวม JBoss Enterprise Service Bus (ESB) กับ Java Business Integration (JBI) เป็นเรื่องง่ายใน อนาคตด้วย

ที่มา http://searchwebservices.techtarget.com/originalContent/0,289142,sid26_gci1193514,00.html

Oracle เบียดไหล่ SAP ตลาด CRM

SAP ยังคงเป็นที่ 1 ในตลาด Customer Relationship Management (CRM) โดยมี Oracle ตามมาแบบหายใจรดต้นคอ

เมื่อปีที่ผ่านมา SAP ครองส่วนแบ่ง 26% ตามด้วย Siebel 17% และ Oracle 6.4% แต่ว่าตอนนี้ Siebel เป็นของ Oracle แล้ว

Oracle จึงมีส่วนแบ่ง 23.4% ส่วน Salesforce.com บริษัท CRM On-Demand ซึ่งให้บริการผ่านอินเตอร์เน็ต มี 5% และ Amdocs อีก 5%

CRM software เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมียอดรวม 5.7 พันล้านเหรียญ
เมื่อปี 2005 เพิ่มจากปี 2004 14% Gartner บริษัทที่ทำการสำรวจ บอกว่า ได้มีการควบรวมกิจการมากมายในมี 2005 ทั้งบริษัทใหญ่ซื้อบริษัทเล็ก และ
บริษัทที่เป็นผู้นำตลาดทั้งคู่ควบรวมกันเอง บริษัทที่ซื้อมีเป้าหมายเพื่อขยายฐานลูกค้า และเพิ่มรายได้

ที่มา http://www.baselinemag.com/article2/0,1540,1976203,00.asp

Tuesday 13 June 2006

.NET ปะทะ Java แย่งที่ 1 ในเอเชีย

Evans Data Corp's APAC Development Survey เปิดเผยผลกาสำรวจพบว่านักพัฒนาในเอเชียใช้ Java EE 5 ถึง 36% เพิ่มขึ้นจาก 6 เดือนที่แล้วถึง 200% และยังใช้มากกว่าในอเมริกาเหนือถึง 2 เท่าอีกด้วย 2 ใน 3 ของนักพัฒนาบอกว่าจะใช้ปีหน้า

อย่างไรก็ตาม .NET ยังครองที่ 1 อยู่ คือ มีผู้ใช้ 75%(เฉพาะในเอเขีย) นักพัฒนาหลายคนยังบอกว่าการทำงานร่วมกันระหว่าง .NET กับ Java ก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากอีกด้วย

ส่วนผลการสำรวจอื่นๆ ที่ได้จากนักพัฒนา 400 คน คือ
-35% ใช้ Java เพื่อสร้าง web service เพื่อใช้ภายนอก firewall ของบริษัท
-2 ใน 3 บอกว่าบริษัทของพวกเขามีปัญหา security อย่างน้อย 1 อย่างเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งมากกว่าอเมริกาเหนือถึง 2 เท่า
-26% บอกว่าปัญหาที่ใหญ่สุดของ security มาจากคน

ที่มา http://www.sda-asia.com/sda/features/psecom,id,381,srn,2,nodeid,4,_language,Singapore.html

Oracle ซื้อ TelephonyWork

Oracle ประกาศว่าได้ซื้อบริษัท Telephony@Work(http://www.telephonyatwork.com) บริษัทผู้นำด้าน IP-based software infrastructure ซึ่งพัฒนา contact center service สำหรับบริษัทด้านสื่อสารโทรคมนาคมแล้ว

software ชื่อดังของบริษัท คือ CallCenterAnywhere ซึ่งเป็น multi-channel contact center solution ที่สามารถ customize เพิ่มเพื่อให้เหมาะกับธุรกิจได้ นอกจากนี้ยังใช้ร่วมกับ Siebel ได้ด้วย

ด้วยการซื้อครั้งนี้ทำให้ Oracle กลายเป็น CRM provider เจ้าแรกที่มีทั้ง contact center technology และ CRM software Oracle มีแผนการที่จะรวม contact center technology เข้ากับ CRM และ business intelligence เพื่อลดต้นทุนในการรวม และ deploy ระบบของลูกค้า แต่เดิมนั้น CRM applications และ telephony component จะทำงานแยกกันและมีปัญหาการเข้ากันของข้อมูล Oracle จึงมองว่าการรวม
software CRM กับ call center technology ครั้งนี้จะช่วยเพิ่ม productivity ให้กับลูกค้า(และตัวเอง) อย่างแน่นอน และยังเป็นการเพิ่มศักยภาพในตลาด CRM On Demand ของ Oracle ด้วย โดยก่อนหน้านี้ Oracle ได้ซื้อ Demantra บริษัท supply chain planning application ไปแล้ว

ที่มา http://biz.yahoo.com/prnews/060613/sftu073.html?.v=60

Monday 12 June 2006

IBM คือที่ 1 ด้าน Middleware และ Application Server

บริษัท Gartner ได้สำรวจตลาด Application Integration และ Middleware พบว่า IBM ครองความเป็นที่ 1 ได้ส่วนแบ่งตลาด 37% โดยวัดจากรายได้เมื่อปีที่ผ่านมา ทิ้งที่ 2 อย่าง BEA ที่ได้ 14.5% ไม่เห็นฝุ่น ส่วน Oracle อยู่ที่ 3 ได้ 8.7% นอกจากนี้ยังบอกว่าตลาด Application Integration และ Middleware โดยรวมในปี 2005 โตขึ้น 7% และมีมูลค่า 8.5 พันล้านเหรียญ

Gartner บอกว่า

  • IBM เป็นผู้นำด้าน Middleware ที่ครอบคลุมทั้ง Transaction Processing Monitors, Integration Suites, Portal และ Message Oriented Middleware
  • IBM โตเร็วที่สุดในส่วน Application Server

ดูเพิ่มเติมได้ที่ http://www.dmreview.com/article_sub.cfm?articleId=1057332

ที่มา http://www.marketwire.com/mw/release_html_b1?release_id=135019

deploy Linux Oracle ด้วย Oracle Validated Configurations

Oracle ประกาศออก Oracle Validated Configurations program เพื่อช่วยลูกค้าที่จะใช้ Oracle กับ Linux สร้างระบบที่มีประสิทธิภาพ,scalability และ reliability โปรแกรมนี้มีจุดประสงค์ให้ลูกค้าที่ใช้ Linux กับ Oracle สามารถ deploy ได้เร็วขึ้น และลดค่าใช้จ่ายในการทดสอบระบบลง โดยจะมี software, hardware, storage และ networking component ซึ่งผ่านการทดสอบเรีียบร้อยแล้ว รวมทั้งคู่มือเกี่ยวกับการ deploy และการรวม hardware กับ software โปรแกรมนี้จึงช่วยแก้ปัญหาของระบบได้เร็วขึ้น และลดค่า support ด้วย

โปรแกรมนี้ Oracle ได้ร่วมมือกับ partner หลายเจ้า เพื่อ solution ที่สมบูรณ์แบบที่มีตั้งแต่ server, storage, chip, operating system และdriver
technology
-- Hardware partners: Dell, EMC, HP, IBM, Network Appliance, Sun
-- Platform technology partners: AMD and Intel
-- Operating system partners: Novell and Red Hat
-- HBA Driver partners: Emulex and QLogic

Oracle อ้างว่าโปรแกรมนี้ มาจากความรู้ และ feedback ต่างๆ จากลูกค้าที่ใช้ Linux ด้วยความร่วมมือกับ partner โปรแกรมนี้จะช่วยลูกค้าสร้าง ระบบ Oracle ที่รันบน Linux ได้สำเร็จแน่นอนดูเพิ่มเติมได้ที่
http://www.oracle.com/technolgy/tech/linux/validated-configurations/

ที่มา http://biz.yahoo.com/prnews/060612/sfm046.html?.v=52

Sunday 11 June 2006

Tumbleweed ออก FTP Analyzer

Tumbleweed (http://www.tumbleweed.com) ผู้ผลิต Security solution ออกเครื่องมือเพื่อตรวจสอบ(monitor) File Transfer Protocol (FTP) เครื่องนี้ชื่อว่า FTP Analyzer จะช่วยตรวจสอบการใช้งาน FTP ทั้งข้อมูลที่เข้า-ออกระบบเน็ตเวิร์กของบริษัท เครื่องมือนี้เป็น Java-based FTP
packet sniffer ผู้ใช้สามารถติดตาม FTP traffic ,ไฟล์ที่ส่งผ่านกัน และserver ที่ทำงานได้ ที่สำคัญอีกอย่างคือ สามารถติดตามการใช้ FTP ที่ insecure และ unauthorised ได้ พร้อมกับสร้างรายงานกิจกรรมทั้งหมดที่เกิดขึ้น

Tumbleweed อ้างว่า ตัว FTP ไม่มีกลไกการจัดการ และความปลอดภัยที่ดี การใช้ FTP แบบนี้เพื่อ share ข้อมูลทำให้องค์กรอยู่ในความเสี่ยง และ เป็นช่องโหว่ให้โจมตีได้ง่ายๆ การใช้ FTP analyzer นี้เป็นก้าวแรกในการเพิ่มความปลอดภัยให้กับการใช้ FTP ขององค์กร

download version ทดลองซึ่งใช้ได้ 30 วันได้ที่
http://www.tumbleweed.com/products/securetransport/ftpanalyzer/download_request.html

ที่มา http://www.techworld.com/security/news/index.cfm?newsID=6190&pagtype=all

Friday 9 June 2006

ทำงานเป็นทีมด้วย SourceForge Enterprise Edition

VA Software (www.vasoftware.com) ประกาศออก SourceForge Enterprise Edition (SFEE) ซึ่งเป็น collaborative software development platform ดูจากชื่อคงเดาได้ว่ามันฟรี

collaborative software คือ เครื่องมือที่ช่วยสนับสนุนการทำงานเป็นทีม ส่วนใหญ่มักประกอบด้วยเครื่องมือที่สนับสนุนการ share หรือแลกเปลี่ยนข้อมูล และเครื่องมือสำหรับสื่อสารกันระหว่างผู้ร่วมงาน เช่น fax, voice mail ,video conference)

SFEE เป็น software ระดับ enterprise พัฒนาบน J2EE มีคุณสมบัติด้าน scalability และ reliability
VA Software อ้างว่าพัฒนา software นี้จากโปรเจ็กค์ต่างๆ ใน SourceForge.net ซึ่งมีสมาชิกกว่า 1.3 ล้านคน กับอีกกว่า 121,000 โปรเจกค์

SFEE มี feature เพื่อสนับสนุนงานระดับ enterprise ทั้ง LDAP และ Wiki integration, workflow tracking
capabilities, role-based access controls และสนับสนุนการทำงานกับ Software Configuration Management (SCM) tool หลายๆอย่าง ช่วยให้พัฒนาสร้าง application ได้เร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถจัดการ, version control และ review project document ได้ด้วย

สนใจ download ได้ที่ http://sourceforge.net/powerbar/sfee/

ที่มา http://java.sys-con.com/read/233279.htm

Thursday 8 June 2006

IBM เตรียมออก DB2 version 9 แย่งลูกค้า Oracle

IBM ประกาศจะออก DB2 version 9 เดือนหน้า โดยได้มีการปรับปรุง และเพิ่ม feature หลายอย่างรวมทั้งสนับสนุน Ruby on Rails ด้วย เป้าหมายครั้งนี้เพื่อชิงส่วนแบ่งการตลาดจาก Oracle มาให้ได้

IBM อ้างว่า DB2 9 ปรับปรุงให้จัดการง่ายขึ้น และสนับสนุน service-oriented development framework เพื่อใช้ร่วมกับ IBM's WebSphere ด้วยที่สำคัญที่สุด คือ มี software สำหรับจัดการข้อมูลที่เป็น xml software นี้เดิมชื่อว่า Viper ช่วยเพิ่มความเร็วของ app ที่ใช้ XML ได้อย่างมาก Viper มีการใช้เทคโนโลยีที่จดสิทธิบัตรถึง 68 ชิ้น ใช้นักพัฒนาถึง 750 คน และใช้เวลาพัฒนาถึง 5 ปี นอกจากนี้ DB2 9 ยังมีกลไกการจัดเก็บข้อมูล ที่ช่วยองค์กรลดหน่วยจัดเก็บข้อมูล(hardware storage)ได้ถึง 40% และถูก optimize เพื่อรัน SAP's packaged application โดยเฉพาะเท่านั้นยังไม่พอ ได้รวม Ruby on Rails ไว้ด้วย IBM คาดว่า DB2 9 จะดึงลูกค้า Oracle มาได้

นักวิจัยตลาด บอกว่า Oracle ครองส่วนแบ่งตลาด relational-database มากที่สุด และรายได้ของ Oracle และ Microsoft ก็เติบโตเร็วกว่า IBM เมื่อปีที่ผ่านมา IBM ควดหวังอย่างมากว่า DB2 9 นี้จะแย่งลูกค้าจาก Oracle มาได้

ที่มา http://news.com.com/IBM+plays+XML+card+in+effort+to+beat+Oracle/2100-1012_3-6080999.html

IBM เตรียมออก DB2 version 9 แย่งลูกค้า Oracle

IBM ประกาศจะออก DB2 version 9 เดือนหน้า โดยได้มีการปรับปรุง และเพิ่ม feature หลายอย่างรวมทั้งสนับสนุน Ruby on Rails ด้วย เป้าหมายครั้งนี้เพื่อชิงส่วนแบ่งการตลาดจาก Oracle มาให้ได้

IBM อ้างว่า DB2 9 ปรับปรุงให้จัดการง่ายขึ้น และสนับสนุน service-oriented development framework เพื่อใช้ร่วมกับ IBM's WebSphere ด้วยที่สำคัญที่สุด คือ มี software สำหรับจัดการข้อมูลที่เป็น xml software นี้เดิมชื่อว่า Viper ช่วยเพิ่มความเร็วของ app ที่ใช้ XML ได้อย่างมาก Viper มีการใช้เทคโนโลยีที่จดสิทธิบัตรถึง 68 ชิ้น ใช้นักพัฒนาถึง 750 คน และใช้เวลาพัฒนาถึง 5 ปี นอกจากนี้ DB2 9 ยังมีกลไกการจัดเก็บข้อมูล ที่ช่วยองค์กรลดหน่วยจัดเก็บข้อมูล(hardware storage)ได้ถึง 40% และถูก optimize เพื่อรัน SAP's packaged application โดยเฉพาะเท่านั้นยังไม่พอ ได้รวม Ruby on Rails ไว้ด้วย IBM คาดว่า DB2 9 จะดึงลูกค้า Oracle มาได้

นักวิจัยตลาด บอกว่า Oracle ครองส่วนแบ่งตลาด relational-database มากที่สุด และรายได้ของ Oracle และ Microsoft ก็เติบโตเร็วกว่า IBM เมื่อปีที่ผ่านมา IBM ควดหวังอย่างมากว่า DB2 9 นี้จะแย่งลูกค้าจาก Oracle มาได้

ที่มา http://news.com.com/IBM+plays+XML+card+in+effort+to+beat+Oracle/2100-1012_3-6080999.html

Wednesday 7 June 2006

Sun ประกาศ JBoss เข้าร่วม NetBeans Partner Program

Sun ประกาศว่า JBoss รองรับ NetBeans IDE แล้ว และจะเข้าร่วม NetBeans Partner Program

ประธานของ JBoss บอกว่า Sun กับ JBoss กำลังปรับปรุงให้การพัฒนา Java EE app ง่ายขึ้น และร่วมมือกับ Netbean เพื่อสร้าง plug-in ที่ทำให้ Netbean ใช้ร่วมกับ JBoss Application Server ได้นอกจากนี้ Netbean ยังเป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะมีการพัฒนาที่ช่วยเพิ่ม productivity อย่างต่อเนื่อง

Sun จะร่วมมือกับ JBoss สร้าง installer ที่รวม Netbean IDE กับ JBoss app server เข้าด้วยกัน(ถึงแม้ว่าปัจจุบัน Netbean จะมี tomcat bundle อยู่แล้ว) เพื่อให้นักพัฒนาสามารถสร้าง Java EE app ที่ทำงานกับ JBoss ได้ทันที ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มความนิยมให้กับ Netbean และ Jboss ขึ้นอีกเยอะ

ที่มา http://biz.yahoo.com/prnews/060606/sftu144.html?.v=30

Tuesday 6 June 2006

Grid Computing อนาคตที่ไม่แน่นอน

เทคโนโลยี grid computing ยังคงเติบโตอย่างเชื่องช้า หลังจากการสำรวจพบว่า มีบริษัทถึง 88% ที่ไม่สนใจเทคโนโลยีนี้
จากการสำรวจบริษัทใน UK 100 บริษัท มีเพียง 8 % ที่วางแผนจะนำเทคโนโลยี grid มาใช้
และ 2 ใน 3 เชื่อว่า grid ยังแพง และซับซ้อนเกินไป อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญบางคนยืนยันว่า grid computing กำลังเป็นที่สนใจขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าจะยังไม่ค่อยมีคนใช้ก็ตามที

Middleware vendor หลายเจ้ากำลังพัฒนาให้ grid ใช้ร่วมกับ application ได้ง่ายขึ้น Oracle ได้จ้างบริษัท Quocirca สำรวจความพร้อมของการใช้เทคโนโลยี grid และพบว่า grid กำลังเป็นที่สนใจอย่างเงียบ และค่อย ๆ เพิ่มขึ้น และยังบอกด้วยว่า ลูกค้าที่ใช้ enterprise grid เพื่อรันเว็บไซต์ ประสิทธิภาพจะเพิ่มขึ้น 5 เท่า เมื่อเทียบกับ data center แบบเดิม

ทาง Sun ก็บอกว่า การพัฒนา hardware ก็มีส่วนช่วยลดความซับซ้อนของ grid จากเดิมที่ผู้ใช้ต้องตั้ง server และเชื่อมต่อ server ต่าง ๆ เอง ปัจจุบัน Sun กำลังจะออก pre-configured build server ช่วยลดความซับซ้อนของงานลง แต่ว่า grid คงใช้กันอยู่ในวงแคบ ๆ ที่ต้องการ คอมพิวเตอร์สมรรถนะสูง เช่น ใช้ใน การผลิตยา หรือการวิจัย

ผู้เชี่ยวชาญ บอกว่า การนำ grid ไปใช้น่าจะมีมากกว่าที่สำรวจได้ เพราะว่า หลายบริษัทกำลังใช้อยู่แล้ว แต่เรียกมันว่า clustering แทน อย่างไรก็ตาม ถ้า vendor ไม่อธิบาย cost และประโยชน์ของ grid ให้ชัดเจน จะยิ่งทำให้มีบริษัทนำไปใช้น้อยลง

Grid computing - เป็นรูปแบบของการสร้างคอมพิวเตอร์ที่มีสมรรถนะสูงแบบหนึ่ง โดยเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์หลาย ๆ ตัวเข้าด้วยกัน คล้าย ๆ clustering ต่างกันที่ว่าเครื่องใน grid จะทำงานโดยใช้ unused resources จากเครื่อง นั่นคือไม่ได้ไปแย่งใช้ทรัพยากรจากงานประจำ

ถ้านึกไม่ออก ให้นึกถึงโครงการ SETI (หาสัญญาณมนุษย์ต่างดาว) หรือโครงการหายาต้านเอดส์ ที่ใช้ resource ของเครื่องเราและส่งไปให้ server โดยการใช้ resource จะไม่ไปแย่งงานหลักของเรา ซึ่งเครื่องเราก็อยู่ใน grid นั่นเอง แต่ถ้าเป็น cluster จะใช้ทรัพยากรของเครื่องทั้งหมดที่มีเลย (http://en.wikipedia.org/wiki/Grid_computing)

ที่มา http://www.vnunet.com/itweek/analysis/2157581/grid-computing-starts-waves

Monday 5 June 2006

Caucho Resin Java-PHP Application Server

Caucho Technology ผู้นำด้าน open source Java-PHP application server ประกาศว่ามีลูกค้าถึง 5000 คน

Caucho Technology ได้รับ java license จาก sun ให้สร้าง Resin ซึ่งเป็น Java และ PHP application server บริษัทโฆษณาว่า Resin เป็น server ที่เร็ว,มีเสถียรภาพ, deploy ง่าย และประสิทธิภาพสูง

ลูกค้าของ Caucho Technology มีทั้งหน่วยงานราชการ,สถาบันการศึกษา และธุรกิจที่ต้องการระบบที่เป็น open source, load balancing, stability, scalability และ ใช้ง่าย Resin มี feature สำคัญคือ Quercus ซึ่งเป็น implementation ของภาษา PHP 5 ที่ทำงานบน Java Quercus ช่วยให้นักพัฒนาสร้าง presentation layer โดยเขียนด้วย php แต่สามารถใช้ Java security และ business logic เพื่อ deploy application ได้ นอกจากนี้ Resin ยังเป็น web server ที่ maintain ง่าย และน่าเชื่อถือด้วย

Caucho Technology ก่อตั้งเมื่อปี 1998 และสร้าง Resin ซึ่งเป็น open source application server ที่สร้างชื่อเสียง และรายได้ให้บริษัทมากมายเพราะขึ้นชื่อในด้าน Java-PHP application server ที่ทำงานเร็ว และเชื่อถือได้ นอกจากนี้บริษัทยังมี customer service ที่ดี และการแก้บักที่รวดเร็วด้วย

ที่มา http://home.businesswire.com/portal/site/google/index.jsp?ndmViewId=news_view&newsId=20060601006069&newsLang=en

Saturday 3 June 2006

Java Web Services Security Software Development Kit 1.0

Forum Systems (www.forumsys.com) ออก Forum Java Web Services Security (JWSS) Software Development Kit (SDK) version 1.0 เป็น libray สำหรับสร้าง Web Services application JWSS SDK v1.0 มีฟังก์ชันด้าน security เพื่อสร้าง Web Services และ SOA application ให้มี privacy และ integrity

JWSS SDK v1.0 ช่วยให้นักพัฒนา และผู้ดูแลระบบสามารถกำหนดและใช้ security policy ภายใน J2EE Application Server ได้ โดยใช้ security model และ API สำหรับ authentication และ authorization ส่วนที่เหลือปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ Application Server ที่จะจัดการ security constraint ที่กำหนดไว้ตอน run time ให้เอง

XML security ภายใน business logic ป้องกันการเรียกใช้ service ที่ละเมิดข้อตกลงที่กำหนดไว้ และ work flow security นอกจากนี้บริษัทที่จะใช้ soa app ควรใช้ SOA Gateway หรือ XML Firewall ภายใน DMZ (Demilitarized Zone) เพื่อเพิ่มความปลอดภัยอีกชั้นนึงด้วย

ที่มา http://home.nestor.minsk.by/computers/news/2006/06/0102.html

Intel ยก Swing native code ให้ Apache open-source

Intel ประกาศมอบ AWT ,Java2D และ Swing package ซึ่งเป็น native code สำหรับใช้ใน JVM ให้กับ Apache "Project Harmony"Harmony ก่อตั้งเมื่อพฤษภาฯ 2005 เพื่อสร้าง "Clean Room" JVM ตัวใหม่ Clean Room นั้น implement ตาม spec ของ Sun และผ่านการทดสอบของ TCK test suite ตามมาตรฐานของ Sun เรียบร้อยแล้ว

Clean Room ได้รับการเห็นชอบจาก Sun โดย Sun ถึงกับยอมลงทุนแก้ไข Java license เพื่อให้การพัฒนา clean room เป็นไปตาม VM specpackage ทั้งหมดได้รับการทดสอบกับ ClassEditor, JUnit และ jEdit แล้ว เพื่อจะสร้าง native code จำเป็นต้องมี MSVC หรือIntel C compiler สำหรับรันบน Windows และ GCC หรือ Intel C compiler สำหรับ 32-bit Linux

ใน package นี้ Java2D implement ด้วย GDI+ library สำหรับ window และ Xlib สำหรับ Linux
โค้ดของ package จะออกให้ download ได้ที่ http://people.apache.org/dist/incubator/harmony/snapshots/ แต่ต้องหลังจาก Intel อนุมัติ และเห็นชอบกับ project นี้ก่อน

อย่างไรก็ดี Sun ซึ่งสัญญาว่าจะ open-source JVM ของตัวเอง ก็ยังไม่ชัดเจนว่าจะทำเมื่อไหร่ และอย่างไร Sun ต้องเผชิญแรงกดดันทั้งจาก partner เช่น ibm ,นักพัฒนา รวมทั้งการแข่งขันที่รุนแรงกับ microsoft ด้วย หลายฝ่ายคาดว่าถ้า Sun open-source JVM และสามารถควบคุม compatible ได้ จะทำให้มีผู้ใช้ Java มากขึ้น

ที่มา http://www.theinquirer.net/?article=32116

Friday 2 June 2006

Sun เตรียมปลดพนักงานงาน 5000 คน

Sun วางแผนปลดพนักงานงาน 4,000 - 5,000 คน แต่ยังไม่ได้ระบุว่าจะปลดที่แผนก หรือสาขาไหนบ้าง อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารของ Sun บอกว่า บริษัทยัง happy กับ technology หลักของบริษัท รวมทั้ง Java, Solaris, Sun Fire และ StorageTek platform

การปลดพนักงานครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างบริษัท ซึ่งคาดการณ์ว่าต้องลงทุนประมาณ 340 - 500 ล้านเหรียญที่ต้องปลดมากมายขนาดนี้เพื่อลดรายจ่าย โดยคาดว่าจะลดได้ถึง 480 - 590 ล้านเหรียญ ต่อปี

การปรับโครงสร้าง, การระงับการสร้างผลิตภัณฑ์บางตัว รวมถึงการปลดคนงานได้มีการคาดการณ์นานแล้ว เมื่อ Jonathan Schwartz ซึ่งเป็น CEO คนใหม่ของ Sun รับตำแหน่งเมื่อเมษาฯ ที่ผ่านมาประกาศว่าจะปรับปรุง และคิดค้นผลิตภัณฑ์ของ Sun ใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่ software ยัน systems, storage และ service

Sun ยังเปิดเผยว่าได้ปิดสำนักงาน 3 แห่งใน Silicon Valley ด้วย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้าง และทำให้ต้องใช้เงินทุนเพิ่มอีก 150 ล้านเหรียญ

ที่มา http://www.computing.co.uk/vnunet/news/2157291/sun-shuts-lights-workers

Oracle ซื้อ Demantra

Oracle ซื้อ Demantra บริษัทผู้พัฒนา demand-driven supply chain software โดยยังไม่ได้เปิดเผยราคาการเจรจาจะเสร็จสิ้นภายในเดือนมิถุนาฯนี้ หลายฝ่ายคาดว่าน่าจะมีมูลค่าประมาณ 41 ล้านเหรียญ

Demantra (http://www.demantra.com/) เป็นบริษัทของอิสราเอล และเป็นบริษัทที่ 20 ที่ Oracle ซื้อภายใน 18 เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่ธันวา 2004 Oracle ได้กว้านซื้อบริษัทมากมายเพื่อเพิ่มศักยภาพมาต่อกรกับคู่แข่งตัวฉกาจ SAP นั่นเอง

ด้วยการซื้อ Demantra ทำให้ Oracle ได้ software เกี่ยวกับ retail และ consumer package ซึ่ง Oracle กำลังมาเน้นที่ด้านนี้ โดยก่อนหน้านี้ก็ซื้อ retail applications provider อย่าง Retek,ProfitLogic และ 360Commerce ไปแล้ว

Demantra พัฒนาระบบจัดการ supply chain ตามความต้องการสินค้า มีประโยชน์อย่างมากกับบริษัทค้าปลีกที่ต้องการข้อมูลความต้องการสินค้า ล่วงหน้าก่อนการผลิต ช่วยให้ทราบข้อมูล ณ จุดขายเพื่อกำหนดวัตถุดิบและปริมาณการผลิตได้ทันท่วงที

การซื้อครั้งนี้ช่วยเพิ่มจุดแข็งให้กับ Oracle ในตลาด supply chain software อย่างมาก และมีศักยภาพเหนือกว่าคู่แข่งอย่าง JDA Software และ i2 Technologies ซึ่งพัฒนา supply chain software เหมือนกัน

CEO ของ Demantra บอกว่าการรวมระบบกับ Oracle ไม่มีปัญหา เพราะทั้ง 2 บริษัทเป็น partner กันอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม Demantra สามารถทำงานร่วมกับ NetWeaver ซึ่งเป็น application-building platform ของ SAP ได้ด้วย ซึ่งทางบริษัทจะยังคงส่วนนี้เอาไว้ เพราะแม้แต่ Siebel เองก็ยังใช้กับ NetWeaver ได้เช่นกัน

ที่มา http://www.redherring.com/Article.aspx?a=17070&hed=Oracle+Buys+Demantra§or=Industries&subsector=Computing

Thursday 1 June 2006

เพิ่ม performance Oracle Database และ Java Application ด้วย Ignite

Confio Software ออก Ignite เครื่องมือเพิ่ม performance ให้กับ Oracle Database และ Java application ที่ทำงานบน oracle โดยใช้วิธี wait time method เพื่อตรวจสอบเวลา และจุดที่ database ใช้ประมวลผล user request

ทาง Confio บอกว่า เราเพิ่มความสามารถของ wait time method และ detailed analysis เพื่อให้ใช้กับ Java app ได้ จากเดิมที่ใช้ได้กับ oracle อย่างเดียว ตัวอย่างเช่น ถ้า app ใช้เวลามากในการตรวจสอบบัตรเครดิต เจ้า ignite นี้ จะหาว่า Java method ไหนที่กินเวลามาก และบอกว่ามันติดอะไรใน database และหาจุดคอขวดให้ด้วย Ignite ใช้ได้กับ J2EE app ที่รันบน WebLogic, JBoss, WebSphere และ Java Web application server อื่นๆ

Iginte สำหรับ Oracle 6.0 ได้เพิ่มความสามารถในการระบุต้นตอของปัญหาใน Oracle Real Application Cluster ซึ่งใช้ร่วมกันโดย server หลายตัวด้วย

ที่มา http://www.eweek.com/article2/0,1895,1970140,00.asp