Microsoft พร้อมออก Atlas AJAX tooling

ไมโครซอฟต์ประกาศเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่าจะออก Atlas เครื่องมือสร้าง AJAX Web application ภายในสิ้นปีนี้

Atlas เป็น AJAX tool ซึ่งไมโครซอฟต์ปล่อยให้ download
เวอร์ชันทดลองฟรีมาได้หลายเดือนแล้ว และจะออกเวอร์ชัน commercial ภายในปีนี้

Atlas จะใช้ร่วมกับ Visual Studio 2005 และ ASP.NET
ไมโครซอฟต์ยังบอกอีกว่า Atlas จะรวมกับ Visual Studio เวอร์ชันถัดไป ชื่อว่า Orcas ซึ่งคาดว่าจะออกปีหน้า

Atlas ประกอบด้วยวอฟต์แวร์หลายๆส่วน คือ

1. JavaScript library เรียกว่า Microsoft AJAX Library
2. Sever-side component ซึ่งจะรวมเข้ากับ ASP.net เรียกว่า ASP .NET 2.0 AJAX Extensions
3. Atlas Control Toolkit เป็น free component

ไมโครซอฟต์บอกว่า กำลังกำหนดฟีเจอร์ที่จะมีใน Atlas tool 1.0 โดยจะทำงานบราวเซอร์ และระบปฏิบัติการได้หลายประเภท

ที่มา http://news.com.com/Microsoft+readies+Atlas+AJAX+tooling/2100-1007_3-6114385.html

Oracle ประกาศ Human Capital Management เติบโตเยี่ยมในเอเชียแปซิฟิก

Oracle Asia Pacific ประกาศภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีการใช้ Human Capital Management (HCM) เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และการจัดการทรัพยากรมนุษย์
การใช้ HCM ในเอเชียแปซิฟิกเพิ่มขึ้นอย่างเนื่องทุกปี โดยปีนี้เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 71% HCM เป็นแอพลิเคชันสำคัญที่ทำเงินของ Oracle Asia Pacific รายได้จากไลเซนล์ของ HCM เพิ่มขึ้นถึง 80% การเติบโตที่แข็งแกร่งนี้มาจากการที่ตลาดมองว่า Oracle คือผู้นำด้านแอพลิเคชัน Human Resource (HR) ซึ่งจะช่วยองค์กรเปลี่ยนจากระบบที่เน้นการบริหารไปเป็นระบบที่เน้นด้านยุทธศาสตร์มากขึ้น เพื่อเพิ่มความสามารถให้กับพนักงาน และรักษาความสามารถในการแข่งขันขององค์กรไว้ จากการวิเคราะห์ของบริษัท AMR Research Oracle เป็นที่หนึ่งด้าน HCM โดยมีส่วนแบ่งตลาดทั่วโลก 26%

Oracle Human Capital Management ช่วยในทำกระบวนการตั้งแต่รับคนงานไปจนถึงปลดเกษียณให้อย่างอัติโนมัติ ช่วยให้สามารถวางแผนจัดการทรัพยากรมนุษย์เพื่อให้บรรลุเป้าหมายขององค์กร

ที่มา http://www.crn-india.com/breakingnews/stories/66444.html

ผลสำรวจชี้โปรเจ็กต์ SOA น่าผิดหวังถึง 1 ใน 4

จากการสำรวจของ InformationWeek พบว่าการสร้าง SOA ยาก และใช้เวลากับเงินมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ (อย่างน้อยก็ใช้เวลากับเงินมากกว่าที่ vendor ที่บอกเรา)

จากการสำรวจผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี และธุรกิจขององค์กร 273 องค์กร พบว่ามี 73% ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาเว็บเซอร์วิส หรือ SOA โดย 24% หรือ 1 ใน 4 ของกลุ่มนี้บอกว่าโปรเจ็กต์ให้้ผลลัพธ์ต่ำกว่าที่คาดไว้ โดย 55% บอกว่าเกิดจากความซับซ้อนที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในระบบ IT และ 41% บอกว่ามาจากต้นทุนมากกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก
จาก 73% ข้างต้นมีเพียง 7% ที่บอกว่าผลลัพธ์ที่ได้ดีกว่าที่ตั้งเป้าไว้ ส่วนอีก 69% ที่เหลือยังไม่ได้ประเมินผลลัพธ์จาก SOA

อย่างไรก็ดี ยังไม่มีใครมาหยุดความร้อนแรงของ SOA ได้ บริษัท 2 ใน 3 เริ่มศึกษา SOA และ 45% บอกว่าโปรเจ็กต์ SOA สำคัญอย่างมากต่อเป้าหมายทางธุรกิจ โดย 55% หวังว่า SOA จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการติดต่อกับ business partner และ 40% หวังจะนำมาช่วยเพิ่มความเร็วในการออกผลิตภัณฑ์ของบริษัท

ผลสำรวจชี้ให้เห็นว่า SOA ต้องใช้เวลานานกว่าจะสร้างประโยชน์ที่เป็นรูปเป็นร่างให้กับองค์กร ผลลัพธ์ที่ได้ยังน่าผิดหวัง และยังขาดประโยชน์ทางธุรกิจที่จับต้องได้จริงๆ

ที่มา http://blogs.zdnet.com/service-oriented/?p=700

AOL มอบโค้ดให้ Dojo Ajax project

AOL(www.aol.com) ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตชื่อดังขยายการสนับสนุนแก่ Dojo Foundation(http://dojotoolkit.org) ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาไลบรารีสำหรับสร้าง Ajax application
AOL มอบ JavaScript Compiler ให้แก่โครงการ เครื่องมือนี้จะช่วยในการวิเคราะห์แอพพลิเคชัน และลบโค้ดที่ไม่ได้ใช้
AOL ยังได้จัดหาบริการ host ให้แก่ Dojo Foundation และมอบเครื่องมือในการพัฒนา และการจัดการบักให้ด้วย
AOL เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนเริ่มแรกของ Dojo Foundation และปัจจุบันกำลังใช้เทคโนโลยีของ Dojo ในการสร้าง AIMPages ซึ่งเป็นโครงการของ AOL เอง นอกจากนี้ยังมี Sun และ IBM ที่เข้ามาสนับสนุน Dojo เมื่อต้นปีที่ผ่านมา

Ajax ช่วยในการพัฒนาเว็บแอพพลิเคชันที่สามารถปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้ได้มากขึ้น Ajax application ที่รู้จักกันดีก็อย่าง Google's Gmail และ Flickr online photo-sharing application
อย่างไรก็ดีการสร้าง Ajax application เป็นงานที่ยุ่งยาก ส่วนหนึ่งมาจากความแตกต่างกันของบราวเซอร์ต่างๆ จึงได้มีการพัฒนาเครื่องมืออย่าง Dojo หรือ Google Web Toolki เพื่อช่วยลดความผิดพลาดในการพัฒนานั่นเอง

ท่ามกล่าง AJAX library มากมายที่ออกมา Dojo จัดเป็นเครื่องมือที่น่าสนใจมากที่สุดตัวหนึ่งเลยทีเดียว

http://www.vnunet.com/vnunet/news/2163450/dojo-ajax-tool-receives-aol

บทความที่เกี่ยวข้อง

• Microsoft พร้อมออก Atlas AJAX tooling
• Backbase 1.2 AJAX Java Edition Released
• Ajax4jsf 1.0 released

ผลสำรวจชี้ SOA ไม่ค่อยได้รับความสนใจในเอเชีย

Springboard(www.springboardresearch.com) ทำการสำรวจ CIO และผู้รับผิดชอบ IT ขององค์กรต่างๆ 2,615 คนในประเทศออสเตรเลีย จีน อินเดีย และสิงคโปร์ พบว่ามีเพียง 21% เท่านั้นที่สนใจ SOA จากผลการสำรวจยังพบอีกว่า IBM เป็นผู้นำด้าน IT เหนือกว่า vendor เจ้าอื่น โดย 50% ขององค์กรที่วางแผนจะสร้าง SOA บอกว่า IBM เป็นตัวเลือกที่ดีสุดที่จะช่วยบริษัทในการย้ายจากระบบเดิมไปเป็น SOA

Springboard พบว่าองค์กรที่กำลังพัฒนา SOA ส่วนใหญ่หรือ 54% ใช้ SOA เพื่อการรวมแอพพลิเคชันต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน อีก 27% ใช้ SOA เพื่อรองรับเว็บเซอร์วิส และเว็บแอพพลิเคชัน อีก 9%ใช้เพื่อการการรวม และใช้ข้อมูลร่วมกันในองค์กร และสุดท้ายอีก 9% ใช้เพื่อสร้างเซอร์วิสที่ใช้ร่วมกันในองค์กร

การสำรวจนี้ยังมีรายละเอียดเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงสำหรับองค์กรที่สร้าง SOA ด้วย ความเสี่ยงพื้นฐานที่สุดที่องค์กรต่างๆอ้างคือ พวกเขายังไม่แน่ใจถึงประโยชน์ที่จะได้รับจาก SOA นั่นเอง

http://www.ciol.com/content/search/showarticle1.asp?artid=88338

Java จับมือ CyberLink พัฒนา PowerDVD BD Edition

CyberLink (www.cyberlink.com) ประกาศ PowerDVD BD Edition ได้รวมเทคโนโลยีจาวาซึ่งมี BD-J advanced content เพื่อสนับสนุนการเล่น Blu-ray Disc ผ่านโปรแกรม PowerDVD
BD-J ช่วยให้สามารถสร้างเนื้อหาในส่วนไตเติ้ล และ bonus feature ใหม่ๆใน Blu-ray Disc ได้ และสนับสนุนฟีเจอร์ใหม่ๆ อย่างเช่น ส่วนติดต่อผู้ใช้ และเมนูที่ดีขึ้น, เกมที่เกี่ยวกับหนัง และการติดต่อเน็ตเวิร์กเพื่อดาวน์โหลดหนังตัวอย่าง

BD-J พัฒนาบน Java Micro Edition (JME) ซึ่งมีใช้ในโทรศัพท์มือถือกว่าพันล้านเครื่อง, โทรทัศน์ รถยนต์และอุปกรณ์แบบฝังตัวกว่าล้านเครื่อง
Sun ร่วมมือกับ CyberLink เพื่อรวม Sun's Java CDC Hotspot เข้าไปใน CyberLink PowerDVD BD Edition เพื่อให้แน่ใจถึงประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยม และความเข้ากันได้

Java resource management technology

ปัจจุบัน กลไกมาตรฐานสำหรับจัดการทรัพยากร เช่น หน่วยความจำ และระบบเน็ตเวิร์กในแอพพลิเคชันจาวากำลังมีการพัฒนาขึ้นมา โดย Java Community Process(JCP)

JSR 284(http://jcp.org/en/jsr/detail?id=284) ซึ่งประกอบด้วย API ในการจัดสรรทรัพยากรระหว่างแอพพลิเคชัน และการจองทรัพยากรที่มีอยู่ในระบบ
ได้ออกฉบับร่างเมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา JSR 284 ซึ่งมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Resource Management Consumption API ได้รับการพิจารณาว่าเป็นพัฒนาการที่สำคัญของจาวาซึ่งช่วยให้จัดการระบบได้ดีขึ้น นอกจากนี้มันยังกำหนดวิธีการในการเปิดเผยทรัพยากรด้วย

Grzegorz Czajkowski หัวหน้าของกลุ่มที่พัฒนา JSR 284 ซึ่งปัจจุบันทำงานให้ google บอกว่า ปัจจุบันเมื่อต้องมีการคำนวณใน JVM เราสามารถจัดการทรัพยากรได้เพียงหยาบๆ เท่านั้น โดยควบคุมทรัพยากรผ่าน OS แต่เราไม่สามารถทำอะไรกับ JVM ได้มากนัก

JSR 284 ได้ระบุเป้าหมายไว้ว่า
"ระบบซอฟต์แวร์ในหลายๆ สถานการณ์จำเป็นต้องใช้ข้อมูลของการใช้ทรัพยากร เพื่อที่จะบรรลุถึง performance ที่ตั้งเป้าไว้บ่อยครั้งต้องมีการควบคุมทรัพยากร แต่เดิมการจัดการทรัพยากรเป็นหน้าที่ของ OS แต่ว่า ด้วยการเติบโตของ Java platform ในการโปรแกรมระบบ(system programming) จำเป็นต้องเพิ่มเครื่องมือที่ช่วยให้โปรแกรมเมอร์สามารถจัดการทรัพยากรของระบบได้อย่างแท้จริง
การป้องกัน Denial of Service(DoS) ,การทำ load-balancing และการตรวจสอบการใช้ทรัพยากร ทำได้ยากมากใน Java platform เวอร์ชันปัจจุบัน ถ้าจะสร้างคุณสมบัติเหล่านี้ในจาวาจำเป็นต้องใช้แนวทางที่หลุดกรอบของภาษาจาวาออกไป เช่น การใช้ native code หรือ shell script
ด้วยการขาดมาตรฐานที่ว่ามานี้ จึงเป็นที่มาในการพัฒนาแนวทางการเขียนโปรแกรมด้วยจาวาเพื่อ จัดสรรทรัพยากรผ่าน JVM ที่อยู่ในแอพพลิเคชันจาวาต่างๆ นั่นเอง"

specification จะสมบูรณ์ในมกราคมปีหน้า รอกันต่อไป

ที่มา http://www.computerworld.com.au/index.php/id;1120105909;fp;2;fpid;1

สร้าง non-EJB J2EE system ด้วย Dasein Tools

Valtira ออก Dasein Persistence และ Dasein Utilities ไลบรารีโอเพ่นซอร์สสำหรับพัฒนาแอพพลิเคชันจาวาระดับองค์กร
Dasein เป็นโปเจ็กตที่์พัฒนา application server ซึ่งพัฒนามาก่อนที่ J2EE specification จะออกเสียอีก ดังนั้นระบบที่ได้จาก Dasein จึงเป็น non-EJB system
Dasein มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันสนับสนุนระบบ persistence และ caching ด้วย Dasein Persistence และ Dasein Utilities
ระบบ persistence และ caching ช่วยให้การอ่าน และบันทึกออบเจ็กจากหน่วยความจำได้อย่างมีประสิทธิภาพ และรวดเร็ว โดยใช้ shared object reference คล้ายกับใน EJB

Dasein Utilities Library เป็นเครื่องมือพื้นฐานสำหรับสร้าง server-side Java application มีฟีเจอร์สำคัญอย่าง calendar, caching,sorting, การจัดการภาษาท้องถิ่น และ การจัดการ Enum
Dasein Persistence Library ประกอบด้วย Java class สำหรับสร้าง EJB-like component

ใครที่เบื่อ EJB ก็มาลองใช้ Dasein ได้ ดูเพิ่มได้ที่ http://www.dasein.org

ที่มา http://www.theserverside.com/news/thread.tss?thread_id=42003

BEA ออก SALT 1.1

SALT หรือเกลือ 1.1 มาจาก Services Architecture Leveraging Tuxedo (Tuxedo เป็นแพลตฟอร์มในการพัฒนาแอพพลิเคชันของ BEA เขียนด้วยภาษา C,C++ และ COBOL)
เป็นโซลูชันสำหรับสร้าง SOA application จากระบบเดิมที่มีอยู่ซึ่งอาจเขียนด้วย C+, COBOL, CORBA C+ หรือ C#
สนับสนุนรูปแบบการโปรแกรมหลายแบบที่ทำงานในรูป client กับเว็บเซอร์วิสบนโปรโตคอล SOAP/HTTP

BEA SALT 1.1 ขยายความสามารถของแอพพลิเคชันเก่าให้รองรับ SOA ซึ่งช่วยให้พัฒนาแอพพลิเคชันจากระบบที่แตกต่างกันได้
เราจึงสามารถสร้างแอพพลิเคชันจากความสามารถ และลักษณะของแอพพลิเคชันอื่นๆ ได้

BEA SALT 1.1 ช่วยให้องค์กรสร้าง SOA จากแอพพลิเคชันเก่าโดยไม่ต้องเสียเวลาเขียนโค้ด Java หรือ .NET ใหม่ ดังนั้นจึงช่วย
ลดต้นทุนในการดูแลรักษาระบบเดิมได้อย่างมาก

สนใจดูได้ที่ http://www.bea.com/framework.jsp?CNT=salt.htm&FP=/content/products/tux/learn/

ที่มา http://weblog.infoworld.com/techwatch/archives/007754.html

ebizQ เปิดตัว SOA in Action Resource Center

ebizQ(www.ebizq.net/) ทำการสำรวจผ่านระบบออนไลน์พบว่า 49% ของผู้ตอบแบบสอบถามบอกว่า ในองค์กรของตัวเองมีเว็บเซอร์วิสน้อยกว่า 10 ตัว ขณะที่ 30% กำลังอยู่ในช่วงค้นคว้า และศึกษา และมีเพียงไม่กี่องค์กรที่ไม่สนใจเรื่องเว็บเซอร์วิส และ SOA เลย SOA กำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้น และเริ่มเปลี่ยนแปลงทั้ง IT และธุรกิจ อย่างไรก็ดี soa มาพร้อมกับความซับซ้อนอย่างมหาศาล ซึ่งมาจาก distributed platform, service และ business group รวมทั้งการจัดการเทคโนโลยีอื่นๆ อีกมากมาย

สัปดาห์นี้ ebizQ เปิดตัว SOA in Action Resource Center เป็นแหล่งรวมข้อมูลเกี่ยวกับ SOA มีทั้งบทความ, podcast,งานวิจัย, Webinar และรายงานต่างๆ เพื่อใช้ในการวางแผน พัฒนา และจัดการโซลูชันของ SOA นอกจากนี้ วันที่ 14-15 จะมีการจัดประชุม SOA in Action เพื่อแสดงกรณีศึกษา และมีการอภิปรายจากองค์กรที่ประสบความสำเร็จในการสร้างโซลูชันของ SOA

ที่มา http://www.soainaction.com/Beth-Gold-Bernstein

JBoss Portal 2.4GA Released

JBoss Portal เป็น open source platform ทำหน้าที่เป็น host สำหรับให้บริการ portal, การจัดการเนื้อหา และการปรับแต่งหน้าเว็บ
Portal เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งหน้าเว็บเพื่อเลือกดูเนื้อหา และการ
แสดงผลที่ต้องการ และเหมาะสมกับตัวเองได้

JBoss อ้างว่า JBoss Portal เป็นแพลตฟอร์มที่ยืดหยุ่น และขยายขนาดได้ และช่วยให้องค์กรใช้งาน Portal ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่มีต้นทุนแม้แต่น้อย
JBoss Portal ต้องใช้กับ JBoss Application Server สามารถดูได้ที่นี่ครับ

ที่มา http://www.theserverside.com/news/thread.tss?thread_id=41949

XFire 1.2 Java SOAP framework

XFire เป็น open source Java SOAP framework มีคุณสมบัติด้านประสิทธิภาพสูง และการอ่านเขียนข้อมูล XML

XFire สนับสนุนมาตรฐานเว็บเซอร์วิส, มีเอพีไอที่ใช้ง่าย, ใช้ร่วมกับ Spring framework ได้, รองรับ JBI (Java Business Integration) และสามารถแปลง xml เป็น POJOs, JAXB และ XMLBeans ได้

เวอร์ชันนี้ปรับปรุงจากเวอร์ชันก่อนหน้าหลายอย่าง

• สนับสนุน JiBX Data Binding
  
• สนับสนุน HTTP GZIP
• WSDL2Java สามารถสร้าง services.xml ให้อย่างอัติโนมัติ
• รองรับ Aegis binding inheritance
• มีออฟชันสามารถยกเลิกการทำงานของ server stub generation

ที่มา http://www.theserverside.com/news/thread.tss?thread_id=41935

Oracle ออก Application Express(APEX) version 2.2

Oracle ออก Application Express (APEX) version 2.2 ซึ่งเป็นเครื่องมือสำหรับสร้าง web application ที่ใช้กับฐานข้อมูล Oracle เท่านั้น โดยสามารถ download ได้ฟรีที่นี่

การพัฒนาที่สำคัญในเวอร์ชันนี้คือ ไฟล์ทั้งหมดใน application สามารถรวมเป็น package เพื่อนำไปติดตั้งที่อื่นได้ และมีระบบการติดตั้งด้วย wizard interface

APEX มีมาตั้งแต่ปี 2004 โดยใช้ชื่อเดิมว่า HTML DB มีเป้าหมายเพื่อแข่งกับ Microsoft Access และ MySQL โดยเฉพาะ มันช่วยให้นักพัฒนาที่รู้ SQL สามารถพัฒนาแอพพลิเคชัน ที่ติดต่อกับฐานข้อมูลได้เร็วขึ้น

เว็บ metalink และกูรู AskTom ก็สร้างด้วย APEX นี่เอง

Oracle partner อย่าง Paetec Communication ก็กำลังใช้ APEX เป็นหลักในการพัฒนา Pinnacle Communications Management Suite ซึ่งเป็นชุดเครื่องมือสำหรับจัดการ technology service โดยจะรันบนฐานข้อมูล Oracle เท่านั้น

Oracle อ้างว่า APEX มีการ download ไปกว่า 260,000 ครั้งตั้งแต่ออกเวอร์ชันแรกมา และประมาณว่ามีผู้ใช้กว่า 20,000 คน จำนวนโซลูชันที่พัฒนาโดย APEX ก็กำลังเพิ่มขึ้น

ที่มา: informationweek

Nexaweb Studio 2.4 Released

Nexaweb Studio 2.4 เป็นคอมโพเนนต์หนึ่งของ Nexaweb Enterprise Web 2.0 Suite ซึ่งนำเสนอ platform สำหรับพัฒนา Enterpise Internet Application
Nexaweb deployment platform ประกอบด้วย
-Nexaweb Server
-Nexaweb Messaging Layer
-Nexaweb Client
ส่วนเครื่องมือที่ใช้พัฒนา คือ Nexaweb Studio ซึ่งช่วยในการพัฒนา Rich Internet Application(RIA) , Service-Oriented Architecture (SOA) และ Java EE เพื่อสร้าง business application ที่เพียบพร้อมด้วย rich user interface โดยทำงานผ่านเว็บ โดย Nexaweb Studio เป็น plug-in ใช้ร่วมกับ Eclipse

Nexaweb Studio มีฟีเจอร์สำคัญอย่าง
-drag & drop, component and file management, source viewing และ runtime previewing
-WYSIWYG edit
-พัฒนา look and feel ที่ใช้ร่วมกันได้ทั้งแอพพลิเคชัน
-สร้าง J2EE application โดยไม่ต้อง re-architect หรือ setup เพิ่มเติม

Nexaweb อ้างว่า ด้วยเครื่องมือนี้จะให้การสร้าง UI widget และคอมโพเนนต์ต่างๆ ที่เชื่อมต่อกับเว็บเซอร์วิสง่ายขึ้น Nexaweb Studio 2.4 มีราคาเริ่มต้นที่ 1495 เหรียญ ดูเพิ่มได้ที่ http://www.nexaweb.com

ที่มา http://java.sys-con.com/read/264025.htm

Oracle ออก PeopleSoft Enterprise Performance Management 9

Oracle ยังคงออกซอฟต์แวร์ในส่วน PeopleSoft Enterprise 9 application suite มาเรื่อยๆ ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่มากสุดตั้งแต่ Oracle ซื้อ PeopleSoft เมื่อมกราคม 2005 ล่าสุดคือ PeopleSoft Enterprise Performance Management 9 โดยเปิดตัวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

PEPM 9 เป็น integrated suite ของแอพพลิเคชันเกี่ยวกับการวิเคราะห์ เพื่อช่วยธุรกิจในการใช้ข้อมูล และทรัพยากรเพื่อให้บรรลุเป้าหมายขององค์กรมากที่สุด release นี้ปรับปรุงในด้านการวางแผนงบประมาณ และการประมาณการ และการจัดการในส่วนการเงิน และการออกรายงานที่สอดคล้องกันมากขึ้น

Oracle ได้เพิ่มการรวมกันระหว่าง PeopleSoft performance management software กับซอฟต์แวร์อื่นของ PeopleSoft มากขึ้น เช่น การรวมกับ PeopleSoft Workforce Rewards ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถประเมินผลลัพธ์ของการปฏิบัติงานของตัวเองได้ Oracle ยังเอาใจตลาดสถาบันการศึกษาด้วย Campus Solution Warehouse ที่รวบรวมข้อมูลนักเรียน เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของข้อมูลนักเรียนที่รับมาใหม่ นักเรียนเดิม และปริมาณนักเรียนในคณะ

Oracle อยู่ระหว่างการส่ง PeopleSoft Enterprise 9 ออกสู่ตลาด โดยพึ่งออกในส่วน CRM เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ต่อไปจะเป็นส่วนการเงินจะออกเดือนกันยายน ตามด้วยส่วน human resource ปลายปีนี้ นอกจากนี้ยังมีแอพฯของค่ายอื่นอย่าง Siebel 8.0 และ Oracle E-Business Suite 12 ที่วางแผนออกภายในปีนี้

Oracle ทำงานอย่างนักกับ Project Genesis เพื่อจะรวมซอฟต์แวร์ที่กระจัดกระจายของตัวเองเข้าไว้ด้วยกัน ทั้งของตัวเอง และที่ซื้อเค้ามา ซึ่ง Oracle บอกว่าจะเห็นผลในเดือนกันยายน โดยเป็นการรวมกันของซอฟต์แวร์ Telephony@Work ที่ซื้อมากับ CRM app ของตัวเอง Oracle ซื้อ Telephony@Work ซึ่งเป็นผู้พัฒนา contact center technology เมื่อมิถุนายน เพื่อที่จะนำเสนอซอฟต์แวร์ที่รองรับการติดต่อระหว่างลูกค้ากับ call-center agent ตั้งแต่เริ่มติดต่อไปจนกระทั่งการเก็บข้อมูลลงระบบ CRM Oracle จะรวม Siebel OnDemand ซึ่งเป็น CRM app เข้ากับ E-Business Suite ภายในปีนี้อีกด้วย จากนั้นจะรวม OnDemand นี้กับ JD Edwards EnterpriseOne อีกทีในปี 2007

ที่มา http://www.cio.com/blog_view.html?CID=24297

ApplinX - สร้างเว็บเซอร์วิสจาก terminal screen

Software AG(www.softwareag.com) ประกาศความก้าวหน้าของ ApplinX (เป็นซอฟต์แวร์ช่วยในการสร้าง SOA จาก legacy system) ในการสนับสนุน SOA โดยผู้ใช้สามารถสร้างเว็บเซอร์วิสจาก legacy terminal screen และ register เวอร์วิสที่ได้เข้าไปใน UDDI registry

การปรับปรุงที่สำคัญของ ApplinX version 5.1 คือ การสร้างเว็บเซอร์วิสจาก terminal screen และเรียกใช้เว็บเซอร์วิสภายนอก โดยไม่ต้องเขียน
โค้ด และสนับสนุน UDDI registry ด้วย นอกจากนี้มีการปรับปรุงด้าน installation และ flow procedure

ApplinX ช่วยให้ผู้ใช้รวมหลายๆ screen เข้าไว้ในเว็บเพจเดียวกัน และสร้างเว็บคอมโพเนนต์ และเว็บเซอร์วิสซึ่งใช้มาตรฐาน XML, SOAP และ WSDL ให้อย่างอัตโนมัติ คอมโพเนนต์ และเว็บเซอร์วิสเหล่านี้เข้ากันได้กับ Java และ .NET environment และสามารถไปใช้ใน SOA ได้ทันที

Software AG เป็นผู้นำด้าน Enterprise Service Bus จากการสำรวจของ Forrester Report(http://www.softwareag.com/Corporate/News/20060818_Forrester_Reports.asp)

ที่มา http://www.sda-india.com/sda/news/psecom,id,10670,nodeid,4,_language,India.html

BEA ซื้อ ซื้อ ซื้อ SOA ซอฟต์แวร์

BEA System ได้ซื้อ Flashline (www.flashline.com) ซึ่งเป็น enterprise metadata repository โดยข้อตกลงไม่มีการเปิดเผย
Flashline ซึ่งจะเปลี่ยนชื่อเป็น BEA AquaLogic Enterprise Repository มีความสามารถด้านการติดตาม ประเมินผล และจัดการข้อมูลซึ่งใช้ร่วมกันในหลายๆโปรเจ็กต์ ซึ่งมีความสำคัญมากกับ SOA

BEA อ้างว่า ความสามารถด้าน enterprise metadata repository ของ Flashline เมื่อรวมกับ BEA AquaLogic Service Registry (ALSR) จะช่วยตอบสนองความต้องการของลูกค้าในด้านการจัดการ metadata ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นการจัดการ และการดูแล SOA lifecycle อย่างครบวงจร

เมื่อเดือนมีนาที่ผ่านมา BEA ก็ได้ซื้อ Fuego ผู้พัฒนา FuegoBPM ซอฟต์แวร์ด้านการจัดการ business process โดย FuegoBPM จะรวมกับ AquaLogic ซึ่งเป็นกลุ่มซอฟต์แวร์ที่เน้นด้าน SOA management ของ BEA

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา BEA ยังประกาศว่าเป็นหุ้นส่วนกับ Tata Consultancy Services (TCS) บริษัท consult ชื่อดังของเมืองโรตีในการพัฒนา SOA ด้วย BEA AquaLogic และ WebLogic platform Tata จะใช้ผลิตภัณฑ์ของ BEA ในการพัฒนาโซลูชัน และทั้ง 2 บริษัทยังได้ตั้งทีมขึ้นมาเพื่อกระตุ้นการใช้ และการ deploy SOA ของบริษัทต่างๆ ด้วย

ที่มา http://www.destinationcrm.com/articles/default.asp?ArticleID=6299

SOA Management System

AmberPoint(www.amberpoint.com) ผู้นำด้านซอฟต์แวร์จัดการ soa ออก SOA Management System เวอร์ชันล่าสุด เวอร์ชันนี้ได้
ขยายความสามารถด้านการจัดการด้วยการรวมของ security solution และการรองรับแพลตฟอร์มต่างๆ

เวอร์ชันนี้ AmberPoint ได้พัฒนา agent ซึ่งจะทำหน้าที่ควบคุม policy บนฝั่ง client ให้อย่างอัตโนมัติ เช่น ถ้าเซอร์วิสต้องการการเข้ารหัส
ข้อมูล client-side agent จะเข้ารหัสให้ก่อนที่จะส่งข้อมูลไปให้เซอร์วิส วิธีการนี้ช่วยลดภาระของนักพัฒนาในการเขียนโค้ดฝั่ง client ได้อย่างมาก

นอกจากนี้ client ยังสามารถปรับใช้ policy ใหม่ได้อย่างอัตโนมัติ นั่นคือ ถ้า policy ถูกแก้ไขที่เซอร์วิส policy ใหม่จะถูกดาวน์โหลด และบังคับใช้กับ client อย่างอัตโนมัติ ระบบยังสามารถแก้ปัญหาการเปลี่ยน endpoint(ที่อยู่ของเซอร์วิส) ได้ด้วย โดย client-side agent จะหา endpoint ใหม่ของเซอร์วิสใน registry และส่งข้อมูลไปที่ endpoint ได้อย่างอัตโนมัติอีกเช่นกัน client-side agent สามารถช่วยในการดูแล(monitor) สภาพ และประสิทธิภาพของระบบจากมุมมองของ client ซึ่งช่วย operation staff เข้าใจ
ปัญหาที่เกิดในระบบดีขึ้น

ประโยชน์ของ SOA management system พอสรุปได้ คือ
-ลดค่าใช้จ่ายในการจัดการ ดูแล และ implement ทางฝั่ง client
-เพิ่มความคล่องตัวของระบบ ด้วย agent ที่ช่วยจัดการ policy ทางฝั่ง client ให้ ทำให้ไม่ต้องแก้ไขโค้ดของ client
-ความเข้าใจสภาพการทำงานของระบบที่ลึกซึ้งขึ้นจากมุมมองของ client หรือ service consumer

สนใจ SOA Management System ดูได้ที่ http://www.amberpoint.com/solutions/sms.shtml

ที่มา http://www.dmreview.com/article_sub.cfm?articleId=1062368

Flux 7.2 BPM engine released

Flux Corp. ออก Flux 7.2 ซึ่งเป็น Java job scheduling, file transfer, workflow และ business process management (BPM) engine เวอร์ชันนี้ได้เพิ่ม visual tool สำหรับ java application developer, file transfer progress monitor สำหรับตรวจสอบ runtime และประมาณเวลาที่ใช้ใน workflow รวมทั้งเก็บ history ของ workflow และสรุปผลการทำงานของ workflow ด้วย

Flux 7.2 สนับสนุนทั้ง Service Level Agreements (SLAs), file transfers โดยใช้ FTP บน SSL (FTPS), repository สำหรับเก็บ pre-defined workflows และงานล้มเหลวที่เกิดขึ้นใน workflows

ที่มา http://www.theserverside.com/news/thread.tss?thread_id=41865

J2Native 2.0 released

Smardec ออก J2Native 2.0(http://www.smardec.com/products/j2native.html) เครื่องมือช่วยในการพัฒนา Java app ที่ต้องมีการทำงานกับ native code โดยไม่ต้องใช้ Java Native Interface(JNI) J2Native สามารถใช้ร่วมกับ JDK1.3 - 1.5

เวอร์ชันนี้มีการพัฒนาดังนี้
-Iterate index - เพื่อทำงานกับ array ของ native data
-มีกลไกการจัดการ string ที่ดีขึ้น
-พัฒนาส่วนการจัดการ native memory เพื่อลด memory leak
-มีการแก้บักทั้งหมดที่ผ่านมา

ที่มา http://www.theserverside.com/news/thread.tss?thread_id=41883

Oracle Application Server 10g ดีที่สุดสำหรับตลาดขนาดกลาง

Oracle ประกาศวันนี้ว่า Application Server 10g Standard Edition One ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Oracle Fusion Middleware ได้รับเลือกจากนิตยสาร CMP Media's VAR Business ให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดแห่งปีสำหรับตลาดขนาดกลาง

บก.ของนิตยสารบอกว่า ตลาด IT ขนาดกลางเป็นตลาดที่เติบโตเร็วที่สุดในปัจจุบัน และ Oracle AS 10g นี้เป็นซอฟต์แวร์ ที่ตรงความต้องการของผู้ใช้มากที่สุดด้วย

Oracle Application Server 10g Standard Edition One ลูกค้าสามารถสร้างเว็บไซต์โดยใช้ภาษาที่นิยมอย่าง PHP, Perl หรือ JSP ได้

นอกจากนี้ยังสามารถสร้าง E-Commerce Application เพื่อสนับสนุนธุรกิจผ่านอินเตอร์เน็ตโดยใช้ Java Developmen Tool ซึ่งสนับสนุนมาตรฐานสำคัญอย่าง JSP, Servlet และ EJB สุดท้ายยังมี Instant Portal ช่วยให้ผู้ใช้ปรับแต่งเนื้อหา และนำเอกสารมาแสดงผ่านเว็บได้

Application Server นี้เหมาะอย่างยิ่งกับองค์กรที่ต้องการเริ่มจากระบบเล็ก ๆ แต่พร้อมจะพัฒนาไปเป็นระบบใหญ่ในอนาคต ทั้งใน Oracle และ Non-Oracle Environment

Oracle อ้างว่าธุรกิจขนาดเล็ก และขนาดกลาง ต้องการซอฟต์แวร์โครงสร้างพื้นฐานคุณภาพสูง ซึ่งพัฒนาและดูแลง่าย และมีความยืดหยุ่นพร้อมที่จะขยายตัวในอนาคต รางวัลที่ได้นี้เป็นการยืนยันว่า Fusion Middleware สามารถตอบสนองความต้องการข้างต้นได้เป็นอย่างดี

VAR Business เป็นนิตยสารราย 2 สัปดาห์ ตีพิมพ์เนื้อหาเกี่ยวกับ Technology Integrator และค้นหาผลิตภัณฑ์ และบริการที่ดีที่สุดสำหรับองค์กรขนาดกลาง ซึ่งมีลูกจ้าง 100-999 คน โดยครอบคลุมทั้งเรื่อง Security และ Business Software ไปจนถึง VoIP และ Storage ด้วย

ทั้งหมดได้รับการเลือก และพิจารณาจากกองบรรณาธิการ โดยเลือกเพียง 45 บริษัทจากทั้งหมดกว่า 350 บริษัท

ที่มา http://sev.prnewswire.com/computer-electronics/20060823/SFW05223082006-1.html

Oracle ซื้อเทคโนโลยีจาก Sigma Dynamics

Oracle วางแผนเตรียมซื้อทรัพย์สินทางปัญญาจากบริษัท Sigma Dynamics(www.sigmadynamics.com) ซึ่งเป็น
บริษัทผู้พัฒนา real-time predictive analytics technology รายละเอียดของสัญญาไม่ได้เปิดเผย โดย Oracle ประกาศเมื่อวันที่ 23 สิงหาฯ ที่ผ่านมา

Oracle คาดหวังว่าสิ่งที่ได้จากข้อตกลงนี้จะช่วยปรับปรุง Oracle Business Intelligence Suite และ Fusion Middleware ให้ดีขึ้น และ Real-time Decision software ของ Sigma Dynamics จะช่วยตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น รวมทั้งช่วยลูกค้าในการตัดสินใจทางธุรกิจได้อย่างทันท่วงทีเพื่อปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของข้อมูล

ฟีเจอร์สำคัญของ Real-time Decision software มีทั้ง real-time offer management, field service optimization, predictive call routing และ fraud detection
โดยซอฟต์แวร์ของ Sigma Dynamics จะมาเป็นฐานของ Siebel Real-Time Decisions ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ BI suite

Oracle วางแผนจะขายเทคโนโลยีของ Sigma Dynamic ทั้งแบบ standalone และขายร่วมกับ enterprise app อื่นๆ

http://www.dmnews.com/cms/dm-news/database-marketing/37996.html

PDFTextStream v2.0 Released

Snowtide Informatics Systems(http://www.snowtide.com/) ประกาศออก PDFTextStream v2.0 เวอร์ชันล่าสุดของ API สำหรับอ่านข้อมูลจากไฟล์ PDFTextStream มีทั้งเวอร์ชันสำหรับ Python, .NET platforms และ Java รองรับข้อความภาษาญี่ปุ่น จีน และเกาหลี
เวอร์ชันนี้ยังสามารถอ่านข้อมูลที่เป็นตารางใน pdf ได้ และสนับสนุน Apache Lucene เพื่อค้นหาข้อมูลในไฟล์ด้วย รวมทั้งเพิ่มเพิ่มประสิทธิภาพในส่วนการทำงานอื่นๆ อีกหลายอย่าง

PDFTextStream ช่วย back-end enterprise systems ในการดึงข้อความ และ metadata จากเอกสาร pdf เหมาะอย่างยิ่งกับองค์กรขนาด
ใหญ่ และหน่วยงานราชการที่ต้องการดึง และบันทึกข้อมูลจาก pdf ได้อย่างอัติโนมัติ ถูกต้อง และรวดเร็ว โดยสามารถแปลงข้อมูลจาก pdf ไปเป็น spreadsheet, XML หรือบันทึกลงฐานข้อมูลได้

ดาวน์โหลดเวอร์ชันทดลองได้ที่ http://www.snowtide.com/Downloads

ที่มา http://ajax.sys-con.com/read/262778.htm

OpenSSO - open single sign-on

OpenSSO(http://opensso.dev.java.net) เป็น access management software

OpenSSO พัฒนาวิธี authentication, authorization และ session management สำหรับ Java และเว็บแอพพลิเคชัน และเว็บเซอร์วิส
OpenSSO มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับ identity service เพื่อเพิ่มความสะดวกเรื่อง single sign-on(SSO) สำหรับเว็บแอพฯ ซึ่งอยู่ในเว็บเซิร์ฟเวอร์ และแอพพลิเคชันเซิร์ฟเวอร์

OpenSSO เป็นความร่วมมือกันระหว่างนักพัฒนาอิสระกับนักพัฒนาของ Sun โดยทาง Sun เองจะเอาผลของโครงการนี้ไปต่อยอดเพื่อพัฒนา
Sun Java System Access Manager สำหรับออกขายนั่นเอง

ที่มา http://www.theserverside.com/news/thread.tss?thread_id=41861

JWic web application development framework v3.0.3 released

jWic(www.jwic.de) เป็นเฟรมเวิร์คสำหรับการพัฒนาไดนามิกเว็บแอพพลิเคชัน ด้วยรูปแบบการทำงานที่สะดวก และการเขียนโปรแกมคล้ายกับ "rich client" และมีรูปแบบการเขียนโปรแกรมแบบคอมโพเนนต์ และ event-driven เพื่อพัฒนาเว็บแอพพลิเคชันที่ยืดหยุ่น และมีประสิทธิภาพ

jWic มีคอนโทรลที่พัฒนาด้วย Ajax (อีกแล้ว) มาให้ และนักพัฒนาสามารถสร้าง jWic control ขึ้นเอง เพื่อใช้ร่วมกันในเว็บแอพฯ ได้ jWic ได้รวม open-source tool อย่าง Velocity และ Spring Framework เพื่อที่จะไม่ต้องเรียนรู้ propietary script jWic แยกส่วน layout ออกจากโค้ดเพื่อให้นักพัฒนา และนักออกแบบสามารถทำหน้าที่ในส่วนของตัวเองได้อย่างเต็มที่

นอกจากนี้ยังมีโปรเจ็กต์เสริมอย่าง Extended Control Library (ecolib:www.jwic.de/home/ecolib.htm) ที่พัฒนาคอนโทรลแบบพิเศษ และ Web Application Platform (WAP : www.jwic.de/home/wap.htm) ที่สร้าง plugin-oriented platform เพื่อเพิ่มความสะดวกในการพัฒนาเว็บแอพฯ สถาปัตยกรรมจะอิงตาม Eclipse Rich Client Platform (RCP)

ที่มา http://www.theserverside.com/news/thread.tss?thread_id=41822

Oracle Identity Management 10g Release 3

Oracle ออก Identity Management 10g Release 3 มีฟีเจอร์ที่ครอบคลุมทั้ง access control, identity administration, provisioning
และ directory service เวอร์ชันนี้ยังสามารถจัดการ user identity บนทรัพยากรขององค์กรที่ต่างชนิดกันได้ด้วย

Oracle Identity Management 10g Release 3 ได้รวมซอฟต์แวร์สำคัญที่ Oracle ได้ซื้อมา และที่มีอยู่แล้ว ได้แก่ Web access management,
user provisioning, identity federation และ directory service ด้วยการพัฒนาบนมาตรฐานเปิด Identity Management สามารถใช้ร่วมกับแอพพลิเคชันอื่นได้ทันที เช่น Oracle E-Business Suite, Oracle's JD Edwards EnterpriseOne, PeopleSoft Enterprise, Siebel applications และ SAP release นี้ยังสนับสนุนแพลตฟอร์มอื่นๆ เพิ่มอีก 12 แพลตฟอร์มด้วย และรองรับภาษา(คน)เพิ่มอีก 28 ภาษา

การอัพเดตที่สำคัญก็มี
-Oracle Identity Manager (เดิมชื่อ Oracle Xellerate Identity Provisioning) : จัดหา(provisioning) ทรัพยากรของระบบบนกระบวน

การธุรกิจ และแพลตฟอร์มที่แตกต่างกันได้อย่างอัติโนมัติ
-Oracle Access Manager (เดิมชื่อ Oracle COREid Access and Identity) : มี Web single sign-on, identity administration การ
ตรวจสอบ(audit) และ ออกรายงาน นอกจากนี้ยังมียังมีการปรับปรุงด้านประสิทธิภาพ, shared-secret และการจัดการรหัสผ่าน (password management) เพื่อความปลอดภัยให้กับซอฟต์แวร์คอมโพเนนต์
-Oracle Virtual Directory : ช่วยให้สามารถใช้ LDAP directory หรือฐานข้อมูลร่วมกันหลายอันได้ ปรับปรุงด้าน installation/configuration เพื่อให้ทำงานร่วมกับ Oracle Identity Management, IBM Tivoli และ Microsoft Active Directory
-Oracle Internet Directory Services : เป็น LDAP v3 directory มีคุณสมบัติทั้ง scalability, high availability และ security นอกจากนี้ยังมี LDAP-based fan-out replication, tighter password integration with Active Directory และ OID synchronization เพื่อรองรับ Novell eDirectory และ OpenLDAP และการจัดการที่ง่ายขึ้นด้วยการใช้ร่วมกับ Oracle Enterprise Manager 10g
-Oracle Identity Federation (เดิมชื่อ Oracle COREid Federation) : เป็น federation server แบบ stand-alone, deploy ง่าย และสนับสนุน SAML 2.0 และ WS-Federation

ดูเพิ่มได้ที่ http://www.oracle.com/products/middleware/identity-management/identity-management.html

DataTable V1.0 for JavaServer Faces

Simplica ออก DataTable component สำหรับ JSF DataTable เป็นตารางที่โหลด และแสดงข้อมูลแบบไดนามิก โดยใช้เทคโนโลยี AJAX
และสามารถนำใช้ร่วมกับฐานข้อมูลได้ง่าย

มีฟีเจอร์ดังนี้
1. Interactive Features
-Drag and Drop ด้วย AJAX
-เลื่อน(scroll) ดูแถวข้อมูลระหว่าง header กับ footer ของตาราง
-สามารถอัพเดตเพจที่ละส่วนได้
-เปลี่ยนขนาดคอลัมภ์ด้วยการลาก
-เรียงข้อมูลด้วยการคลิกที่หัวคอลัมภ์

2. เว็บบราวเซอร์ที่รองรับ : IE, Firefox, Netscape, Mozilla, Opera และ อื่นๆ

3. JSF Data Model
-ลบ และแทรกแถวง่าย
-Filtering
-Caching

4.Customizable
-มีการกำหนด layout และแถวด้วย tag ที่ไม่ซับซ้อน
-กำหนดสี, ตัวอักษร และรูปแบบ ด้วย style sheet class
ฯลฯ

สนใจดูได้ที่ http://www.simplica.com/ajaxgrid.htm
ช่วงนี้มีแต่ข่าวซอฟต์แวร์ที่ใช้ AJAX กับ JSF เบื่อกันหรือยังเนี่ย ฟีเจอร์ส่วนใหญ่ก็ซ้ำๆกัน แทบจะลอกฟีเจอร์มาปะได้เลย

ที่มา http://www.theserverside.com/news/thread.tss?thread_id=41783

Rule Authoring - สร้างกฎธุรกิจด้วย MS Word, Excel และ Visio

RuleBurst ออก business rules authoring เครื่องมือพัฒนากฎธุรกิจสำหรับ
Microsoft BizTalk Server โดยได้มีการประกาศที่งาน Microsoft Worldwide Partner Conference ที่บอสตัน

เครื่องมือนี้ช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญธุรกิจ และนโยบายขององค์กรสามารถพัฒนากฎธุรกิจสำหรับ BizTalk Server โดยใช้ Microsoft Office tools ได้ ตอนนี้กฎธุรกิจใน BizTalk Server สามารถเขียนโดยใช้ภาษามนุษย์ทั่วไปด้วย Word หรือจะสร้างกฎด้วย flow diagram โดยใช้ Visio ก็ได้ หรือจะสร้างจากตารางการตัดสินใจ (Decision Table) ด้วย Excel ก็ยังได้

RuleBurst และ Microsoft ได้ร่วมกันพัฒนา Business Process Management(BPM) โดยใช้เทคโนโลยีของ BizTalk Server เป็นศูนย์กลาง กฎธุรกิจมีบทบาทอย่างยิ่งกับความสามารถของ BPM คือช่วยในการตัดสินใจงานที่มีเงื่อนไขที่ซับซ้อนให้อย่างอัติโนมัติ RuleBurst ได้พัฒนาเครื่องมือที่เป็นมิตรกับคนที่ไม่มีความรู้ด้านการเขียนโปรแกรม ให้สามารถสร้างกฎที่ซับซ้อนได้อย่างรวดเร็ว และไม่ต้องใช้ทักษะด้านการเขียนโปรแกรมแม้แต่น้อย ประโยชน์ที่ได้จะช่วยลดคอขวดทางเทคนิค ซึ่งสร้างความล่าช้าให้กับโปรเจ็กต์ซอฟต์แวร์อย่างมาก

Microsoft อ้างว่า RuleBurst ช่วยเติมเต็ม BizTalk Server ในด้าน BPM โดยสร้าง BizTalk Server rules engine ซึ่งจะเป็นจุดขายสำคัญดึงดูดผู้ใช้ที่มีความรู้เกี่ยวกับธุรกิจ ความร่วมมือที่เกิดขึ้นจะช่วยขยายความสามารถของ BizTalk Server ไปสู่ผู้ใช้ที่ไม่มีความรู้ด้านเทคนิค

ที่มา http://www.financevisor.com/market/news_detail.aspx?rid=37621

DB4O open source object database v 5.5 released

db4objects ประกาศออก db4o 5.5 ซึ่งเป็นฐานข้อมูลแบบออบเจ็กต์ และ open source เวอร์ชันนี้เน้นไปที่การเพิ่มประสิทธิภาพ และกิน
หน่วยความจำน้อยลง db4o เหมาะอย่างยิ่งกับการใช้แบบฝังไว้ในแอพพลิเคชัน และระบบที่มีทรัพยากรจำกัด

เวอร์ชันนี้มีการเปลี่ยนแปลงคือ

• สถาปัตยกรรม BTree แบบใหม่เพื่อให้การทำ class index เร็วขึ้น โดยเฉพาะในกรณีที่มี object มาก ((100,000 ถึง 10 ล้าน)
• เพิ่มความเร็วในการอัพเดต และแทรกข้อมูลประเภท array และ string
• มี diagnostics package ช่วยเพิ่มความเร็วในการพัฒนาแอพพลิเคชัน
• ประสิทธิภาพโดยรวมเพิ่มขึ้น และใช้หน่วยความจำน้อยลง

ดูเพิ่มได้ที่ http://www.db4o.com/about/news/newsletter/2006_09.aspx

ที่มา http://www.theserverside.com/news/thread.tss?thread_id=41799

Oracle ออก Oracle SOA suite Developer Preview

Oracle ออก SOA Developer Preview ให้นักพัฒนาได้ดาวน์โหลด Oracle SOA suite ไปลองใช้กัน

Oracle SOA suite เป็นคอมโพเนนต์ที่ประกอบด้วยโครงสร้างพื้นฐานสำหรับ สร้าง, deploy และจัดการเว็บเซอร์วิส โดยประกอบไปด้วย

• Integrated Service Environment (ISE): สำหรับพัฒนาเซอร์วิส โดยใช้ JDeveloper, BPEL และ ESB designer
• Oracle BPEL Process Manager: ช่วยประสานงานเซอร์วิสในการสร้างกระบวนการทางธุรกิจ
• ESB: เพื่อติดต่อกับระบบ IT เดิมขององค์กร และระบบขององค์กรอื่น
• Oracle Business Rules: เป็น Rule engine สำหรับใช้กฎธุรกิจในการตัดสินใจ สนับสนุนการแยกกฎธุรกิจ ออกจากกระบวนการทำงาน
• Oracle Business Activity Monitoring : มีหน้าที่ตรวจสอบเซอร์วิส และเหตุการณ์ต่างๆ โดยทำงานเป็นแบบ real-time
• Oracle Web Services Manager: จัดการด้านความปลอดภัย เช่น การพิสูจน์ตัวตน (authentication), การให้อำนาจ (authorization) และการเข้ารหัส เป็นต้น

ในเวอร์ชันนี้ จะมี UDDI Registry กับ Oracle Application Server 10g Release 3 เพิ่มมาให้ด้วย

นอกจากนี้ Oracle ยังออก Developer Preview ของ JDeveloper และ Oracle J2EE Container (OC4J) ที่สนับสนุน EJB 3.0 และ JPA

ที่มา http://www.theserverside.com/news/thread.tss?thread_id=41776

JBoss บุกตลาด SOA ด้วย jBPM และ JBoss ESB

JBoss ลุย SOA เต็มตัว ด้วยซอฟต์แวร์ jBPM (Java Business Process Management) สนับสนุน BPEL 1.1 และ 1.2 และจะออก ESB (Enterprise Service Bus) beta version ในสัปดาห์นี้

jBPM เป็นแพลตฟอร์มสำหรับ workflow, การจัดการกระบวนการทางธุรกิจ (Business Process Management:BPM) และการประสานงาน ของกระบวนการ (Process Orchestration)
นอกจากนี้ยังสนับสนุน jPDL (jBPM Process Definition Language) ด้วย

BPM มีความสำคัญยิ่งกับ SOA เพราะ SOA เป็นการทำงานร่วมกันของกระบวนการทางธุรกิจ และการสร้าง service ให้ผู้อื่นเรียกใช้

JBoss อ้างว่า มีการดาว์โหลด jBPM เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าจากปีที่แล้ว ปัจจุบันมีการดาวน์โหลด 20,000 ครั้งต่อเดือน
BPEL 1.1 จะถูกเพิ่มใน jBPM ในเดือนกันยายน ส่วน BPEL 2.0 อยู่ระหว่างการอนุมัติจาก OASIS

นักวิเคราะห์ กล่าวว่า การสนับสนุน BPEL และการออก ESB เป็นเรื่องจำเป็นอย่างมากของ JBoss ในปัจจุบันนี้ซอฟต์แวร์สนับสนุน SOA เป็นสิ่งสำคัญมาก การมีแค่ Application Server ไม่พอเสียแล้วสำหรับตอนนี้ JBoss ต้องมีโครงสร้างพื้นฐาน ที่รองรับเซอร์วิส ที่ใช้ในสภาพแวดล้อมขององค์กร

JBoss กำลังตามหลังผู้พัฒนา open source เจ้าอื่นอย่าง Apache ซึ่งตอนนี้ก็มี ServiceMix การออก JBoss ESB และ jBPM เป็นเรื่องที่ JBoss ต้องทำเพื่อความอยู่รอด นอกจากนี้การสนับสนุน BPEL ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร และยังทำให้ BPM engine ของ JBoss ซับซ้อนยิ่งขึ้น เพราะมันไม่ได้รองรับ BPEL ตั้งแต่ต้น

JBoss ESB ตอนนี้เป็น Beta version จะออก final version ภายในปีนี้ JBoss ESB จะเป็นเหมือนกาวที่เชื่อมเซอร์วิสต่างๆ ให้ทำงานร่วมกันได้เพื่อ
สร้าง SOA application ดาวน์โหลดได้ที่

http://labs.jboss.com/portal/jbossesb/downloads

ส่วน jBPM ตอนนี้ออกเวอร์ชัน 3.1 แล้ว ดูเพิ่มได้ที่
http://labs.jboss.com/portal/jbossjbpm

ที่มา http://www.computerworld.com.au/index.php/id;1927936675;fp;4;fpid;1968336438

FaceletsTools 1.0 for Dreamweaver - Now Available

FaceletsTools 1.0 เป็นเครื่องมือเสริม(extension)สำหรับใช้ร่วมกับ Dreamweaver เพื่อสร้าง JSF Web Application สนับสนุนการใช้ Facelets UI
tag ใช้ได้ทั้ง Dreamweaver MX 2004 และ Dreamweaver 8
FaceletsTools Community Edition สามารถดาวน์โหลดได้ฟรี ส่วน Professional Edition 30 เหรียญ

ฟีเจอร์สำคัญก็มี
-Visual Tags for Facelets UI Tag Library - มีส่วน design view ไว้ใช้ดู UI เวลาแสดงผลจริงในบราวเซอร์
-Drag-and-Drop Toolbar for Facelets UI Tags - มีไอคอนของ tag ต่างๆตรง Toolbar สามารถ drag and drop มาที่ page ได้
-New Facelets XHTML Document Type (.jsf) - เพิ่มไฟล์ JSF document (.jsf) และ Dreamweaver template (*.dwt.jsf) ให้กับ Dreamweaver
-Facelets UI Composite View Design Support - สามารถสร้าง page จาก reusable element เช่น header,footer,navigation menus,sidebars เป็นต้น
-Context-Sensitive Help for Facelets UI Tags - ช่วยให้ดู document ของแต่ละ tag ได้โดยง่าย
-Syntax Auto-Completion for Facelets UI Tags -มี auto complete ช่วยให้เขียนโค้ดเร็วขึ้น
-JSF-EL Parser with Design View Highlighting - เพิ่มความสะดวกในการเขียน JSF Expression Language (JSF-EL)
ฯลฯ

ดูเพิ่มเติมได้ที่ http://www.jsftoolbox.com/products/facelets/

ที่มา http://www.theserverside.com/news/thread.tss?thread_id=41773

JPedal 2.8 Java PDF library released

JPedal(www.jpedal.org) เป็นจาวาโซลูชันสำหรับสร้างจาวาแอพพลิเคชันที่ใช้ดู และพิมพ์ไฟล์ pdf
นอกจากนี้ยัง zoom in/out, rotate, search และดึงข้อมูลรูปภาพ หรือข้อความจากไฟล์ pdf ได้ด้วย
JPedal library ประกอบด้วย JPanel component, Simple API และโค้ดตัวอย่าง

มีฟีเจอร์ใหม่ คือ
-Page layout options - single page, single-page-continuous, facing pages และ facing-pages-continuous
-Memory gauage - สามารถบอกหน่วยความจำที่โปรแกรมใช้ไปได้
-Full Screen mode
-Dual license - Commercial/GPL license สามารถใช้ JPedal ได้ฟรี แต่ถ้าเอาใช้เชิงการค้าต้องเสียเงิน
-Content Extraction - ดึงข้อมูลประเภทข้อความ รูปภาพ และ FDF form จากไฟล์ pdf ได้

ดาวน์โหลดได้ที่ www.jpedal.org/download.php

ที่มา http://www.theserverside.com/news/thread.tss?thread_id=41747

Sun ประกาศ open source JavaC

Sun วางแผนออก Open source Java code ภายในตุลาคมปีนี้ โดยจะปล่อย JavaC compiler และ Hotspot virtual machine ออกมา
ก่อน ซึ่งทั้ง 2 เป็นเทคโนโลยีสำคัญในการรันโปรแกรมที่เขียนด้วยภาษาจาวา นอกจากนี้ก็จะปล่อย Java Micro Editon ภายในปีนี้ด้วย ส่วน
โค้ดที่เหลือจะ open source ภายในปี 2007 ครั้งนี้ป็น open source ครั้งแรกตั้งแต่ Sun ประกาศจะ open source เมื่อเดือนพฤษภาคม
ที่ผ่านมาในงาน JavaOne

Sun ยังไม่ได้ระบุประเภทของ license ที่จะใช้กับ open-source java อย่างไรก็ตามโปรเจ็คต์ Glassfish ซึ่งเป็น Java EE ฉบับ open-
source ซันเลือกใช้ Community Development and Distribution License ซึ่งทางบริษัทเขียนขึ้นมาเอง

Sun ถูกกดดันให้ open source มาหลายปีแล้ว แต่ Sun ปฏิเสธโดยอ้างเรื่องความเข้ากันได้ของ Java ที่อาจกลายพันธุ์ไป แต่ด้วยสภาพตลาด
ปัจจุบันมีความต้องการซอฟต์แวร์ open source อย่างมาก ทำให้ Sun ต้องเปลี่ยนใจนั่นเอง

ที่มา http://news.zdnet.com/2100-3513_22-6105601.html

Woodstox XML processor v3.0 released

Woodstox XML processor เวอร์ชัน 3.0 เป็น XML Parser ที่อิมพลีเมนต์ Stax API (JSR-173)
เป็น API ในการอ่าน-เขียนไฟล์ XML ที่จาวาอ้างว่าดีกว่า SAX และ DOM

ฟีเจอร์ก็มี
- ปรับปรุงในส่วน validation ได้แก่ สามารถใช้ validator ตัวเดียวกันได้ทั้งใน reader และ writer ,เพิ่ม DTD และ RNG validator ,
validator สามารถตรวจสอบได้ทีละหลาย schema
- เพิ่มประสิทธิภาพในส่วน reader และ writer
- เข้ากันได้กับ XML 1.0 และ 1.1
- สามารถสร้าง XMLStreamReader จาก DOM tree และสนับสนุน UTF-32 encoding
- มีหลาย parsing mode ได้แก่ tree[default], forest, fragment
- เพิ่มฟีเจอร์ใน writer เช่น line number reporting, xml warning handler, disabling of namespace handling

ดูรายละเอียดได้ที่ http://woodstox.codehaus.org
หรือบทความ "Let's talk about Stax"

ที่มา http://www.theserverside.com/news/thread.tss?thread_id=41703

Jitterbit 1.1 - open source integration package

Jitterbit คือ integration software ทำหน้าที่แปลงข้อมูลเพื่อใช้ในการสื่อสารระหว่างสองระบบ ทำให้ระบบทั้งสองทำงานร่วมกันได้

เวอร์ชันนี้มีฟีเจอร์ใหม่ๆ คือ
-สนับสนุน LDAP(Lightweight Directory Access Protocol) - สามารถใช้ Jitterbit เพื่อรวม enterprise system ด้วย directory service
-Hosted Web Services - สามารถสร้างและเก็บ Web Service ได้
-สนับสนุน Web Services Cookie เพื่อเก็บข้อมูล session
-รองรับ XML Any หรือแท็ก ผู้ใช้สามารถเพิ่มแท็ก xml ที่ไม่มีใน Schema ได้
-สามารถใช้ password เพื่อ encrypt ข้อมูลที่ส่งได้

ดูได้ที่ http://www.jitterbit.com/

ที่มา http://www.theserverside.com/news/thread.tss?thread_id=41704

Java Outlook Connector 2.0 released

Java Outlook Connector เป็นจาวาไลบรารีเพื่อติดต่อ และเข้าถึงโปรแกรม MS Outlook

ฟีเจอร์ใหม่มีดังนี้
-สามารถดึงข้อมูลของผู้ใช้จาก Outlook ได้ด้วยเมธอด getUserProperties()
-เข้าถึง address book ด้วยเมธอด Outlook.getAddressLists()
-สนับสนุน distribution list
-สามารถควบคุม automation และ user interface ของ Outlook ได้

มีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในเวอร์ชันนี้ มีการจัดการเรื่องวันที่ และเวลาแบบอัติโนมัติ
ไลบรารีถูกแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ jar file 2 ไฟล์ และ DLL file อีกหนึ่งไฟล์ และบางคลาสย้ายไป package อื่น

ดูเพิ่มได้ที่ http://www.moyosoft.com/news/

ที่มา http://www.theserverside.com/news/thread.tss?thread_id=41693

Oracle เตรียมซื้อ Kingdee - ผู้พัฒนา ERP ของจีน

Oracle เปิดเผยว่ากำลังพิจารณาที่จะซื้อ Kingdee International Software Group(http://global.kingdee.com/en) บริษัทผู้พัฒนา ERP software ของประเทศจีน
โดยเมื่อวันพุธที่ผ่านมาเว็บไซต์จีน Sohu.com รายงานว่า Oracle กำลังเจรจากับ Kingdee เพื่อซื้อบริษัทในราคา 150ล้านเหรียญ และอาจเสร็จสิ้นภายในปีนี้ แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดแต่อย่างใด

ทางด้าน Oracle สาขา Asia-Pacific ที่สิงคโปร์ ก็บอกว่า ยังอยู่ในช่วงการพิจารณาเท่านั้น

Kingdee มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เฉินเจิ้นประเทศจีน เมื่อปีที่ผ่านมามีกำไร 8.9 ล้านเหรียญ บริษัทนี้เป็น software vendor ชั้นนำของจีนมีจุดแข็งใน
ตลาดธุรกิจขนาดเล็ก และกลาง แต่ปัจจุบันกำลังเผชิญหน้ากับ vendor คู่แข่งต่างชาติ เช่น SAP และ Oracle ซึ่งมีซอฟต์แวร์ครบวงจรมากกว่า

ที่มา http://www.cio.com/blog_view.html?CID=23769

Backbase 1.2 AJAX Java Edition Released

Backbase ออก Backbase 1.2 AJAX Java Edition เวอร์ชันมีการขยายความสามารถของ Eclipse WTP plug-in, เพิ่มคอมโพเนนต์ใหม่ๆ,
พัฒนา client-side validation และรองรับ application server มากขึ้น

Backbase Java Edition เป็น framework ช่วยนักพัฒนาสร้าง AJAX UI บนจาวาแอพพลิเคชันและเว็บเซอร์วิสทั้งที่มีอยู่แล้ว หรือที่สร้างใหม่โดยจะใช้ร่วมกับ
Eclipse ใน Java Edition จะประกอบด้วย
-Backbase AJAX Engine
-AJAX component กว่า 30 อัน
-Backbase JSF server-side runtime สนับสนุนการใช้ server-side JSF tag library
-Eclipse plug-in โดยเวอร์ชันนี้ปรับปรุงให้สนับสนุน Eclipse 3.2

app server ที่รองรับก็มี BEA WebLogic 9.2, Oracle 10g, WebSphere 5.1.1 และ JBoss 4.0.4 และยังสนับสนุน app server เวอร์ชันเก่าๆ ด้วย
นอกจากนี้ยังปรับปรุงส่วนของเอกสารในรูป Javadoc format, tutorials และคู่มือการติดตั้ง

บริษัทตั้งเป้าว่าเวอร์ชันถัดไปจะสนับสนุน visual development ใน Eclipse, เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานฝั่ง client และ UI component ต่างๆ

ดาวน์โหลดเวอร์ชันทดลองที่ http://www.backbase.com/#dev/download/jse.xml

ที่มา http://ajax.sys-con.com/read/258613.htm

JuMix 1.0 Released

บริษัท Trillian Infosüsteemid (ที่มีชื่อแปลกๆ ก็เพราะเป็นบริษัทของประเทศเอสโตเนีย) ออก JuMix 1.0 JMX microserver สำหรับ Java
application (ที่เรียกว่า microserver เพราะว่ามีสภาวะแวดล้อมที่สามารถรัน java app ได้ แต่ยังมีฟีเจอร์ไม่เท่า Application Server)

JuMix ใช้รันแอพพลิเคชันที่ประกอบด้วย JMX-based service component JuMix เป็น light weight open source คือใช้หน่วยความจำไม่มาก
เหมาะกับสภาวะแวดล้อมที่มีทรัพยากรจำกัด JuMix ใช้ได้ทั้งฝั่ง server และ client

มีฟีเจอร์ดังนี้
-dynamic deployment
-ดูแลจัดการได้ง่ายด้วยเครื่องมือ jconsole
-แบ่งแอพพลิเคชันด้วย classloader hierarchy
-ใช้หน่วยความจำน้อย
-XML-based configuration : config ค่าต่างๆด้วย xml

ดูเพิ่มได้ที่ http://www.trillian.ee/jumix/index-eng.html

ที่มา http://www.theserverside.com/news/thread.tss?thread_id=41599

Ajax4jsf 1.0 released

Exadel ออก Ajax4jsf 1.0 จากชื่อก็พอเดาได้ว่าเป็น open source project ที่รวม AJAX กับ JSF เข้าไว้ด้วยกัน
Ajax4jsf เป็น component framework ที่ขยายความสามารถของ JSF ให้สนับสนุน AJAX นักพัฒนาสามารถเพิ่มการทำงานของ AJAX เข้าไปใน JSF application ที่มีอยู่แล้วได้

ฟีเจอร์สำคัญ ก็มี
-สนับสนุน AJAX ร่วมกับ JSF เพื่อสร้าง asynchronous communication และ partial page update
-เข้ากันได้กับฟีเจอร์ JSF เพราะว่า Ajax request/response lifecycle มี event listeners,validation,

transformation และ messages ซึ่งสอดคล้องกับโครงสร้างการทำงานของ JSF
-สามารถเพิ่ม AJAX เข้าไปใน JSF component โดยไม่จำเป็นต้องแก้ไขของเดิม
-Zero-JavaScript Ajax : ไม่ต้องมานั่งเขียน JavaScript แม้แต่น้อย
-เป็น open architecture และรองรับมาตรฐานอื่นๆ ช่วยให้สามารถนำเอาไลบรารีอื่นมาใช้ร่วมกันได้ (รวมทั้งใช้ใน page เดียวกัน)

แต่ว่าตอนนี้ยังไม่สนับสนุน Oracle ADF Faces นะ

สนใจดูได้ที่ https://ajax4jsf.dev.java.net

ที่มา http://www.theserverside.com/news/thread.tss?thread_id=41608

Crystal Reports for Eclipse 1.0 Released

Business Objects ออก Crystal Reports สำหรับ Java ถึงแม้ว่า Business Objects จะออก Java reporting runtime engine มานานแล้ว
แต่นี้เป็นครั้งแรกสำหรับ report designer ฉบับ Java โดยจะมี Basic version ให้ดาวน์โหลดฟรีด้วย

Crystal Reports for Eclipse เป็น report designer ที่สร้างด้วย Eclipse platform โดยใช้ Java Reporting Component (JRC) เป็นเอนจิ้นช่วย
ในด้าน report เอนจิ้นนี้เป็นตัวเดียวกับที่ออกมาเมื่อ 4 ปีที่แล้ว แต่มีการพัฒนาเพิ่มเติมมาเรื่อยๆ

Business Objects แนะนำฟีเจอร์ซึ่งช่วยให้การสร้างรายงานร่วมกับการพัฒนาแอพพลิเคชันด้วย Eclipse IDE เป็นไปอย่างราบรื่น ฟีเจอร์สำคัญมีดังนี้
1.Crystal Reports Web Project Wizard - สร้าง web project ที่มี runtime configuration ที่จำเป็นมาให้
2.JSP Page wizard - Drag and drop รายงานบน JSP page ช่วยสร้างโค้ดสำหรับแสดงรายงาน และการกำหนดพารามิเตอร์สำหรับรายงานบน jsp page
3.POJO Data Source support - สร้างรายงานจาก java class ด้วยวิธี Drag and drop
4.Java Reporting Component facet - สามารถเพิ่มไลบรารีใหม่ๆ เข้าไปใน web app ได้โดยง่าย
5.Java User Function Library wizard - สามารถนำ Java method มาใช้ใน Crystal Reports formula ได้
6.Deployment Assistance - รวบรวมไลบรารีที่จำเป็นสำหรับโปรเจ็กต์ให้แบบอัตโนมัติ เช่น JDBC driver
ฯลฯ

สนใจดาวน์โหลดได้ที่ http://diamond.businessobjects.com/node/440

ที่มา http://www.theserverside.com/news/thread.tss?thread_id=41650

IBM J9 ประกาศรับรอง MobiForms

MobiForms เป็นเครื่องมือพัฒนาจาวาโมบายล์แอพพลิเคชัน สำหรับ Tablet PC, Pocket PC, Windows CE, Windows Mobile, EPOC, Symbian และ Palm
MobiForms ปฏิวัติการสร้างโมบายล์แอพพลิเคชัน โดยการลดเวลาในการพัฒนาจากวันเป็นนาที
ด้วย MobiForms นักพัฒนาไม่จำเป็นต้องมีความรู้เรื่องจาวาแม้แต่น้อย แต่สามารถพัฒนาแอพพลิเคชันอย่างมืออาชีพได้ด้วยฟีเจอร์ MobiForms drag and drop interface

เวอร์ชันล่าสุดมีฟีเจอร์สำคัญ คือ signature capture, image items, integrated MobiScript language for bar coding และสามารถใช้ติดต่อกับ
Oracle, Sybase, DB2 หรือแม้แต่ไฟล์ ASCII ทั่วไปได้ด้วย นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันด้านเน็ตเวิร์กสำหรับพัฒนา client-server mobile application
โดยใช้ร่วมกับ serial port, USB, Ethernet, Wi-Fi หรือ mobile phone connection

ปัจจุบัน MobiForms ได้รับการรับรองจาก IBM J9 Java environment(WebSphere Everyplace Micro Environment)
J9 จะสนับสนุน MobiForms บน Pocket PC,Window CE, Windows Mobile และ Palm นอกจากนี้ MobiForms ยังใช้ร่วมกับ Java environment
อื่นๆ อย่าง Jbed, Jeode และ Mysaifu บน Windows Mobile และ PersonalJava บน Symbian

*อนึ่ง J9 เป็น JVM สำหรับ embedded system หรือ mobile device ของ IBM
สนใจดูได้ที่ http://www-306.ibm.com/software/wireless/wece/features.html

ดาวน์โหลด MobiForms ได้ที่ http://www.mobiforms.com

ที่มา http://www.wi-fitechnology.com/displayarticle2778.html

Swingweb released

Swingweb เป็น Web application framework ที่สามารถนำ AWT/Swing application มาใช้ภายใน Web container เพื่อสร้าง web app จาก
AWT/Swing ได้ เมื่อเป็นเว็บแอพลิเคชัน AWT/Swing จะถูกเปลี่ยนเป็น HTML/CSS/javascript เพื่อแสดงในเว็บบราวเวอร์
ซึ่ง swing application จะแสดง และทำงานใน web container เหมือนกับใน desktop application

Swingweb ช่วยในการพัฒนาเว็บแอพพลิเคชันได้อย่างรวดเร็วโดยการใช้ GUI editor ของ desktop app ที่มีอยู่ และทำให้การพัฒนา web
และ desktop application สามารถอยู่ในกระบวนการ(process) เดียวกันได้ซึ่งช่วยลด development cost ได้อย่างมาก และการนำ swing UI มา
ใช้พัฒนา web app ยังช่วยลด learning curve ของนักพัฒนาที่คุ้นเคยกับ desktop app อยู่แล้วได้อีกด้วย

Swingweb มีฟีเจอร์ คือ สนับสนุน session ได้ทีละหลายๆ session พร้อมกัน, transparent URL manipulation และการจัดการ session
สนับสนุนการใช้ jxp(http://jxp.sf.net) ซึ่งเป็น template language เพื่อความยืดหยุ่นในการกำหนด look-and-feel และ Component-oriented
architecture ซึ่งสามารถนำ swing component มาใช้ในเว็บได้อย่างง่ายดาย

สนใจดูได้ที่ http://swingweb.sourceforge.net/swingweb

ที่มา http://www.theserverside.com/news/thread.tss?thread_id=41642

jKool 1.1 released

Nastel ออก jKool 1.1 เครื่องมือตรวจวัดประสิทธิภาพ(performance monitor) สำหรับ J2EE web application
jKool สามารถตรวจวัดทรานแซกชันได้แบบ real-time เพื่อให้สามารถจัดการประสิทธิภาพ และรับประกันความเชื่อถือได้(reliability) ของระบบ

jKool สามารถหาคอขวดของ application ได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในจุดที่ใช้ JMS,JDBC, method calls และ servlets เพื่อระบุสาเหตุของปัญหา
นอกจากนี้ยังแบ่ง execution time รวม ออกเป็นส่วนๆ เพื่อวิเคราะห์เวลาที่ใช้ไปอย่างละเอียดในแต่ส่วน ได้แก่ ส่วน Web, database, business logic

jKool จะตรวจวัดทรานแซกชันของผู้ใช้แต่ละคน ตั้งแต่เริ่มไปจนถึงจบทรานแซกชัน และยังสามารถวัดประสิทธิภาพของ JVM ที่ทำงานในแต่ละครั้ง
ที่ผู้ใช้ request มาได้แบบ real time

ฟีเจอร์อื่นๆก็มี
-ตรวจวัด exception ที่เกิดขึ้น
-วัดเวลาค่าเฉลี่ย มากสุด น้อยสุด ของการเรียกใช้ web app ในแต่ละครั้ง
-เก็บ session ของผู้ใช้ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน
-สนับสนุน WebLogic และ WebSphere Application Server
-สามารถใช้ร่วมกับ Enterprise System Management tool อย่างเช่น HP OpenView, Tivoli TEC และ CA Unicenter

Nastel อ้างว่า jKool มี overhead น้อยกว่า java profier ทั่วไป และไม่ได้ใช้ java profiling APIs
jKool ไม่ใช่ profiler และออกแบบเพื่อ web/j2ee app ทั้งที่ยังอยู่ในช่วงพัฒนา ช่วงทดสอบ และช่วงที่ใช้งานจริง(development, QA and production)

jKool Personal ดาวน์โหลดฟรีได้ที่ http://www.nastel.com/resources

ที่มา http://www.theserverside.com/news/thread.tss?thread_id=41624

Sun Java Studio Enterprise 8.1 Beta Released

Sun Java Studio Enterprise 8.1 Beta ออกแล้วจ้า เวอร์ชันนี้พัฒนาความสามารถด้าน UML , Web reporting system และ reverse
engineering

Sun Java Studio Enterprise 8.1 พัฒนามาจาก NetBeans 5.0 เป็น IDE สำหรับ Sun Java Enterprise System 5(www.sun.com/software
/javaenterprisesystem/index.xml) ซึ่งเป็น platform สำหรับ deploy SOA-enabled Web services
นอกจากนี้ยังสนับสนุน CVS, การพัฒนา application บน J2EE 1.4 platform และการ deploy บน Sun Java System Application Server Platform 8.2 , WebLogic 9 และ JBoss 4

ดูเพิ่มได้ที่นี่ http://developers.sun.com/prodtech/javatools/jsenterprise/reference/techart/whatis.html

ที่มา http://weblogs.java.net/blog/marinasum/archive/2006/08/sun_java_studio_3.html

Oracle จับมือ IDS Scheer พัฒนา Oracle Business Process Analysis

Oracle ทำข้อตกลงให้บริษัท IDS Scheer เป็น OEM พัฒนา Oracle Business Process Analysis

IDS Scheer(www.ids-scheer.com) เป็นผู้พัฒนา ARIS Process Design Platform ซึ่งเป็นโซลูชันในด้าน business process
lifecycle ตั้งแต่การ model ,simulate ไปจนถึงการ optimize กระบวนการธุรกิจ(business process)
ด้วยข้อตกลงนี้ ARIS Process Design Platform จะถูกเปลี่ยนยี่ห้อเป็น Oracle Business Process Analysis
ซึ่งจะมาเพิ่มผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับ BPM(Business Process Management) ของ Oracle ที่มีอยู่เดิมอย่าง
Oracle SOA Suite และ Oracle BPEL Process Manager และสามารถใช้ร่วมกับ Oracle และ non-Oracle application

นอกจากนี้ Business Process Analysis และ BPEL process manager ยังสามารถทำงานร่วมกับ
Oracle E-Business Suite, PeopleSoft Enterprise และ Siebel application โดยจะทำหน้าที่โมเดล
และเอ็กซีคิวต์ business process สำหรับ Oracle Fusion Application

Business Process Analysis จะขายเป็น standalone product ราคา 9,000 เหรียญต่อผู้ใช้ 1 คน
แต่จะบังคับให้ซื้ออย่างน้อย 10 คน หรือ 90,000 เหรียญ

ที่มา http://www.ebizq.net/news/7187.html

QuipuKit - JSF component

QuipuKit เป็น commercial library ของ JSF พัฒนาโดยบริษัท TeamDev

QuipuKit ประกอบด้วยคอมโพเนนต์สำหรับสร้าง Web user interface เช่น TreeTable, Calendar, TabbedPane, Chart และ PopupLayer
นอกจากนี้ยังมี validation framework ที่มีส่วนการตรวจสอบข้อมูล (validation) ไปไว้ที่ฝั่ง client และมี validator กับ message เพิ่มมาให้ด้วย

QuipuKit มีฟีเจอร์หลักดังนี้
-dynamic data update ด้วย AJAX
-การกำหนดรูปแบบการแสดงผลที่ยืดหยุ่น และหลากหลาย
-สนับสนุนบราวเซอร์หลายเจ้า
-มีคู่มือการใช้ที่เข้าใจง่าย

ส่วน QuipuKit validation framework ก็มีฟีเจอร์ ดังนี้
-สนับสนุนการใช้ JSF validator และ converter บนฝั่ง client
-การแสดงข้อความผิดพลาด (error message) และวิธีการตรวจสอบ(validation) ที่ยืดหยุ่น
-validator แบบพิเศษเพิ่มมาให้ทั้งบนฝั่ง client และ server

สนใจ download มาใช้ได้ที่ www.teamdev.com/quipukit/download.html

ที่มา http://www.theserverside.com/news/thread.tss?thread_id=41549

Oracle Developer Tools For Visual Studio .Net 2005

Oracle ออกเครื่องมือพัฒนา database application ใน Visual Studio .Net 2005 (Oracle Developer Tools for Visual Studio
.NET)
เครื่องมือนี้เป็น plug-in ใช้ร่วมกับ Visual Studio .Net 2005 เพื่อสร้างแอพพลิเคชันที่ใช้ Oracle Database 10g สามารถดาวน์โหลดฟรีได้ที่
Oracle Technology Network(http://www.oracle.com/technology/tech/dotnet/tools/index.html)

Oracle ได้ออก plug-in ที่ใช้กับ IDE ตั้งแต่ปี 2004 โดยเริ่มจาก Visual Studio .Net 2003 ในเวอร์ชันนี้สนับสนุน ADO.Net 2.0 และได้
รวม debugger สำหรับ PL/SQL เข้าไปด้วยเพื่อดีบัก PL/SQL stored procedures และ function เครื่องมือนี้จะช่วยนักพัฒนาเข้าถึงข้อมูล
ในฐานข้อมูลผ่าน Visual Studio ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ฟีเจอร์ใหม่ค่อนข้างผูกติดกับ Visual Studio พอสมควร ซึ่งงจะช่วยนักพัฒนาสามารถ debug แอพพลิเคชันที่ใช้ทั้งภาษาของ .NET และ
PL/SQL บน environment เดียวกัน และดูผลลัพธ์การทำงานจากบน window เดียวกันได้
ฟีเจอร์เหล่านี้มีใน plug-in ของ Visual Studio .Net 2003 ด้วย

ที่มา http://www.techweb.com/wire/software/191601071

Before the Call กับ Siebel CRM On Demand

Before the Call บริษัทผู้นำด้าน intelligence solution สำหรับ on-demand sale ประกาศว่า sales intelligence suite ของบริษัทสามารถใช้ร่วมกับ Siebel CRM On Demand ได้แล้ว ผู้ใช้ Siebel CRM On Demand สามารถใช้ Before the Call เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการขายได้

Before the Call ถูกออกแบบมาเพื่อให้ทีมขายทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ลูกค้าสำคัญของบริษัทมีทั้ง Interwoven (content management), Intervoice (automated customer service solutions) และ AngelPoints (Web-based volunteer management software)

ลูกค้าสามารถ deploy Before the Call และ Siebel CRM On Demand ได้ง่ายและรวดเร็ว โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายด้าน IT เพิ่มเติม และยังสามารถใช้ Before the Call โดยไม่ต้องออกจาก Siebel CRM On Demand ด้วย

ผู้บริหารของบริษัท อ้างว่า การรวมกันครั้งนี้ทำให้ Before the Call เป็นบริษัทแรกที่ยกระดับซอฟต์แวร์จาก sales intelligence ไปเป็น on-demand CRM ระดับ enterprise นอกจากนี้ Before the Call ยังมีรูปแบบการใช้เหมือน Siebel CRM On Demand ด้วย ซึ่งช่วยสร้างความคุ้นเคย
ให้กับผู้ใช้ Seibel เดิม

ที่มา http://biz.yahoo.com/prnews/060731/sfm027.html?.v=58

Oracle Fusion Middleware ทำรายได้ทะลุพันล้าน

Oracle ประกาศรายได้จาก Oracle Fusion Middleware ทะลุ 1 พันล้านเหรียญแล้ว โดยมีรายได้จาก license เพิ่มขึ้น 57% จากปีที่แล้ว
ประธาน Oracle กล่าวว่า Oracle Fusion Middleware ได้รับความสำเร็จอย่างมาก ทั้งๆที่เมื่อ 5 ปีที่แล้วเราไม่ได้อยู่ในตลาดนี้ ความสำเร็จนี้ช่วยเพิ่มจุดแข็งในด้าน infrastructure software business ให้กับ Oracle และความสามารถของเราจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

Oracle Fusion Middleware ทำรายได้รวมทั้งหมด (ค่า license+ ค่า maintenance) ในปีงบประมาณ 2006 มากกว่า 1 พันล้านเหรียญ รายได้นี้ยังไม่รวมค่า training, education และบริการอื่นซึ่งก็เพิ่มขึ้นด้วย Fusion Middleware ช่วยให้ลูกค้าสร้าง และจัดการ SOA บนสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันได้ ปัจจุบัน Oracle Fusion Middleware มีลูกค้ากว่า 31,000 รายซึ่งอยู่ในอุตสาหกรรมหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น financial services, telecommunications, manufacturing, retail, pharmaceuticals และ health care นอกจากนี้ยังได้รบการสนับสนุนจากบริษัทอื่นๆ อีกกว่า 9,000 บริษัท

ที่มา http://www.timesofmalta.com/core/article.php?id=235029

IntelliJ IDEA 6.0 Beta Released

JetBrians (www.jetbrains.com) ออก IntelliJ IDEA 6.0 Beta และ JetBrains TeamCity 1.0 ซึ่งเป็นระบบสนับสนุนการเขียนโปรแกรมแบบเป็นทีม (team management system)

IntelliJ IDEA 6.0 และ TeamCity สามารถทำงานแยก หรือร่วมกันก็ได้ ถ้าใช้ร่วมกันจะช่วยเพิ่มประสิทธิผล และคุณภาพของโค้ดได้อย่างมากIntelliJ IDEA ออกแบบมาสำหรับเขียนโปรแกรมคนเดียว แต่ด้วย TeamCity ทำให้สามารถพัฒนาแอพพลิเคชันด้วย IntelliJ IDEA แบบเป็นทีม
ได้ TeamCity ที feature ดังนี้
-Continuous Integration Support -- จัดระเบียบโค้ดที่ใช้ทดสอบซึ่งใช้ใน JUnit หรือ NUnit
-Delayed Commit -- ช่วยในด้านการควบคุมเวอร์ชันของโค้ด(version control)
-Effective Build Management -- มี Build Grid ซึ่งเป็นเครื่องมือช่วยในการ build และเลือกประเภทการ build แอพพลิเคชัน โดยสนับสนุน
build tool หลายแบบ ได้แก่ Ant, Maven, NAnt, MSBuild
-Code Coverage analysis -- วิเคราะห็ความครอบคลุม และครบถ้วนในการทดสอบซอร์สโค้ด
-Static Code Analysis -- ตรวจสอบซอร์สโค้ดแบบระยะไกลได้(Remotely verify)
-Web-based Interface -- จัดการ และกำหนดค่า config ผ่านเว็บบราวเซอร์

ส่วน IntelliJ IDEA 6.0 ก็มี feature ใหม่ๆ คือ
-รองรับ EJB 3.0 และ Persistence Units และการนำโค้ดจาก EJB เวอร์ชันเก่ามาใช้
-สนับสนุน JSF และ Struts framework
-การพัฒนาเว็บในรูปแบบใหม่ คือ JavaScript, AJAX, HTML/CSS, XML
-มี plug-in ไว้พัฒนา web app ด้วย Google Web Toolkit
-ใช้ร่วมกับ app server ได้หลายเจ้า เช่น WebLogic 9 และ WebSphere
-GUI designer ช่วยเพิ่มความเร็วในการสร้าง GUI ด้วย Swing และ third-party layout manager อื่นๆ
-IDE Talk เครื่องมือช่วยในการประสานระหว่างเพื่อนร่วมทีม เช่น ส่งข้อความ, exceptions, code pointers และ code
-มีเครื่องมือช่วยทดสอบโปรแกรม เช่น code coverage และ JUnit 4

สนใจ download มาใช้ได้ที่ www.jetbrains.com/downloads.html

ที่มา http://in.sys-con.com/read/253018.htm

Oracle, SAP, IBM จับมือกันพัฒนา SOA specifications

กลุ่ม software vendor ชั้นนำซึ่งมี IBM, SAP และ Oracle อยู่ด้วย ประกาศความก้าวหน้าในการพัฒนา specification ของการเขียนโปรแกรมรูปแบบใหม่(language-neutral programming model) สำหรับพัฒนา application ภายใน SOA environment

SOA เป็นแนวทางการพัฒนาระบบ IT โดยนำ software และservice กลับมาใช้ใหม่(reuse) และกำลังเป็นที่นิยมในองค์กรต่างๆ มากขึ้นเรื่อย
แต่การ deploy web service และการรวม SOA technology ของ third-party ต่างๆ ยังเรื่องที่ยากอยู่

EA Systems, IBM, Oracle และ SAP จึงร่วมมือกันพยายามพัฒนา programming model แบบใหม่เพื่อให้สร้าง application บน SOA ได้ง่ายขึ้น โดยก่อตั้งกลุ่ม Open Service Oriented Architecture(www.osoa.org) ขึ้นมา กลุ่มนี้กำลังพัฒนาอยู่ 2 โครงการ คือ service
component architecture (SCA) และ service data objects (SDO)

SCA เน้นไปที่การกำหนดรูปแบบ สำหรับการสร้าง และรวม service component เพื่อพัฒนา SOA ขณะที่ SDO ทีเป้าหมายเพื่อหาวิธีการจัดการข้อมูลภายใน SOA application ทางกลุ่มตั้งเป้าว่าจะกำหนด spec เสร็จภายในสิ้นปีนี้

กลุ่มนี้เริ่มงานตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว มีเป้าหมายเพื่อพัฒนา soa spec ที่นำไปใช้ได้ง่าย และสนับสนุนหลายๆเทคโนโลยี ปัจจุบัน SCA specification สนับสนุน BPEL, PHP,Spring และ EJB แล้ว ปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 17 องค์กร และกำลังมีเพิ่มอีก 9 รวมทั้ง Sun และ Red Hat ด้วย

ที่มา http://www.computerworld.com.au/index.php/id;344051677;fp;4;fpid;1398720840

Oracle Warehouse Builder 10g Release 2

Oracle ออก Oracle Warehouse Builder 10g Release 2 สำหรับการออกแบบฐานข้อมูล และ ETL (Extraction, Transformation and Load) เครื่องมือนี้ช่วยลูกค้าจัดการ lifecycle ของข้อมูล และ metadata ตั้งแต่เริ่มออกแบบ ไปจนถึง deployment และ maintenance ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เวอร์ชันนี้มี feature ที่สำคัญเกี่ยวกับ data quality, integration และ administrative เหมาะอย่างยิ่งกับลูกค้าที่กำลังหา เครื่องมือเพื่อใช้ออกแบบ, deploy และจัดการข้อมูลใน data intregration project และ BI system

OWB ได้รวม Oracle Database 10g เข้าไปด้วยโดยไม่คิดเงินเพิ่ม
OWB สามารถออกแบบได้ทั้งฐานข้อมูลแบบ relational และ OLAP นอกจากนี้ยังใช้ร่วมกับฐานข้อมูลอื่น รวมทั้ง E-Business Suite, PeopleSoft Enterprise และ SAPได้ด้วย แต่ต้องซื้อ connector เพิ่ม

OWB มีทั้ง linux และ window version ดูได้ที่
http://www.oracle.com/technology/software/products/warehouse/index.html

หมายเหตุ Extraction, Transformation และ Load (ETL) เป็นกระบวนการในการทำ data warehouse คือ

• ดึง (Extract) ข้อมูลจากแหล่งข้อมูลภายนอก
• แปลง (Transform) ข้อมูลที่ได้ให้อยู่รูปที่ธุรกิจสามารถนำไปใช้ได้
• เก็บ (Load) ข้อมูลนั้นลง data warehouse

ที่มา http://www.oracle.com/corporate/press/2006_jul/072606-owb-10gr2-finalsite.html

http://en.wikipedia.org/wiki/Extract%2C_transform%2C_load

SAP ออก Safe Passage หวังแย่งลูกค้าจาก Oracle

SAP วางแผนตอกย้ำชัยชนะที่มีต่อ Oracle ด้วยการออก Safe Passage เวอร์ชัน 2 ซึ่งเป็น migration program มีเป้าหมายเพื่อแย่งลูกค้าที่ใช้ PeopleSoft และ JD Edwards (JDE) application มาจาก Oracle เนื่องจากลูกค้าไม่มั่นใจในอนาคตของบริษัทหลังจาก Oracle เข้ามาซื้อกิจการ

โปรแรม Safe Passage มีทั้งการ maintenance และ software support สำหรับโซลูชันของ PeopleSoft และ JDE ซึ่งจะทำผ่านบริษัท TomorrowNow ที่ SAP ซื้อมาไม่นาน ซึ่งบริษัทนี้ก็เชี่ยวชาญด้านนี้อยู่แล้ว SAP ยังเสนอแผนการ และวิธีการการย้ายจาก Oracle platform มาใช้ SAP platform ด้วย

ภายใต้โปรแกรม safe passage องค์กรจะรัน PeopleSoft และ JDE บน SAP NetWeaver platform ซึ่งมีตัวเชื่อมต่อ (connector) ระหว่างโซลูชันของ JDE และ PeopleSoft องค์กรจึงได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากการรวมระบบของตัวเองให้ทำงานบน platform เดียวกัน

นอกจากนี้ SAP ยังอ้างว่า 70% ของธุรกรรม (business transaction) ที่ใช้ SAP ในอเมริกา ย้ายมาจากลูกค้าของ Oracle เดิม อย่างไรก็ตามช่วงไตรมาสที่ 2 Oracle มีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นมากกว่า SAP โดยเพิ่มจาก 8.8% เป็น 10% ขณะที่ SAP เพิ่มจาก 21.4%เป็น 21.7% นักวิเคราะห์ยังชี้ด้วยว่าราคาของโปรแกรมนี้ทำให้ลูกค้าที่จะย้ายมาใช้ SAP ต้องคิดหนักอยู่ดี

ที่มา http://www.sap.com/company/press/press.epx?pressID=3715
http://www.marketwatch.com/News/Story/Story.aspx?dist=newsfinder&siteid=google&guid=%7BAFD856E4-F086-41D3-9915-4FC69C21378B%7D&keyword=

Cayenne 1.2 ORM engine

Cayenne team ประกาศออก Cayenne 1.2 ซึ่งเป็น open source ORM engine เทียบเคียงได้กับ hibernate ORM tool ชื่อดัง โดยเวอร์ชันนี้สนับสนุนเว็บเวอร์วิสด้วย

จุดเด่นที่สำคัญของ Cayenne คือ Remote Object Persistence ซึ่งสามารถเข้าถึงข้อมูลบนแอพพลิเคชันต่างเครื่องได้ (remote application) โดย server และ client ใช้ abstract object model และ Cayenne persistence API อันเดียวกัน ส่วน feature อื่นก็คล้าย ORM ทั่วไป เช่น สนับสนุน custom query, XML (de)serialization of persistent object, lazy resolution, local caching ,มีการตรวจสอบประเภท และเวอร์ชันของฐานข้อมูลให้แบบอัติโนมัติ และมี "smart" configuration สำหรับ database adapter ด้วย

หลายคนวิจารณ์ว่า Cayenne เหมาะกับการพัฒนา web application มากกว่า hibernate แต่ว่า hibernate ดีกว่าในเรื่องการใช้ primary key กับ foreign key ในฐานข้อมูลแบบเก่า เพราะ Cayenne เน้นไปที่การออกแบบโดยใช้ designe pattern มากกว่า อย่างไรก็ตามบางคนก็อ้างว่า Cayenne ใช้ง่าย และพัฒนาได้เร็วกว่า hibernate เพราะ มี feature schema generation และ code generation ไม่จำเป็นต้องเขียน XML mapping file

สนใจ download มาใช้ได้ที่ http://incubator.apache.org/cayenne/download.html

ที่มา http://www.theserverside.com/news/thread.tss?thread_id=41372

Compass 1.0 Search Engine Framework

ทีมพัฒนา OpenSymphony และ Compass(http://www.opensymphony.com) ประกาศออก Compass 1.0
ซึ่งเป็น Java Search Engine Framework ที่พัฒนาบน Lucene(http://lucene.apache.org) มี feature สำคัญดังนี้
-ลดความซับซ้อนของการทำงาน และโครงร่าง(configuration) ของ search engine
-search engine สนับสนุนทรานแซกชันแบบ fast update
-อิมพลีเมนต์ JDBC Lucene directory ช่วยให้สามารถเก็บ index ลงฐานข้อมูลได้
-RSEM (Resource/Search Engine Mapping) ซึ่งใช้ในการกำหนดคุณสมบัติของทรัพยากร(resource) ในระบบ
-OSEM (Object/Search Engine Mapping) ใช้ Annotations และ Xml เพื่อ map Object เข้ากับทรัพยากร คล้าย ORM
-XSEM (Xml/Search Engine Mapping) เป็นการ map ระหว่างโครงสร้างข้อมูล xml กับ search engine โดยใช้ xpath และ XmlObject abstraction
-ORM tools integration สามารถใช้ compass ร่วมกับ ORM tool ได้แก่ Hibernate, JPA ,JDO และ OJB (Apache ObJectRelationalBridge http://db.apache.org/ojb)
-Spring Framework integration ใช้ร่วมกับ Spring 2.0 ได้ด้วย

สนใจ download ได้ที่ http://www.opensymphony.com/compass/download.action

overview ซึ่งอ่านแล้วได้ความรู้ดีมาก เพราะอธิบายข้อเสียของการค้นหาปกติที่ใช้ SQL/ HQL / EJBQL แนวคิดของ Lucene และความจำเป็นที่แอพพลิเคชันควรใช้ Search engine รวมทั้งความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับ Search engine ด้วย น่าสนใจมาก
ดูได้ที่ https://compass.dev.java.net/files/documents/4669/36943/file_36943.dat?filename=Compass%20TSSJS%20Europe%20%30%36%2epdf&nbsp

ที่มา http://www.theserverside.com/news/thread.tss?thread_id=41453

Accenture ทุ่มงบวิจัย SOA

Accenture(www.accenture.com) บริษัท consult ชื่อดัง ออกรายละเอียดเกี่ยวกับการวิจัย และบริการใหม่ๆ เพื่อช่วยลูกค้าอิมพลีเมนต์ SOA บริษัทลงทุนไปกว่า 450ล้านเหรียญ เพื่อสร้างห้องทดลอง SOA Innovation ในชิคาโก ห้องทดลองนี้มีไว้ทดสอบ SOA application ที่ถูก customise ให้เข้ากับธุรกิจแบบต่างๆ

Accenture กำหนด SOA implementation เอาไว้ 4 เฟส คือ planning ,organisation ,tactical implementation และ culminate Accenture กล่าวว่าบริษัทส่วนใหญ่ล้มเหลวตั้งแต่ 2 เฟสแรก การพัฒนา SOA เป็นเรื่องยาก และใช้เวลาหลายปี ในห้องทดลองเราได้วิจัยวิธีการในการพัฒนาในแต่ละเฟสค้นหาอุปสรรคที่เกิดขึ้น เพื่อนำข้อมูลไปแก้ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

Accenture ยังออกบริการเพื่อช่วยลูกค้าที่ต้องการพัฒนา SOA ด้วย บริการมีทั้ง SOA Assessment (www.accenture.com/Global/Services/By_Subject/Service_Oriented_Architecture/Services/ServiceOrientedModel.htm)
และแนวทางในการพัฒนา(roadmap) ซึ่งอยู่ในรูป web-based tool เพื่อใช้ประเมินความพร้อมของลูกค้าในการก้าวสู่ SOA และสนับสนุนการพัฒนา business case ด้วย

ที่มา http://www.itweek.co.uk/itweek/news/2160698/accenture-seeks-bigger-soa-role

สร้าง executable java application ด้วย Excelsior JET

Excelsior JET 4.5 อิมพลีเมนต์ด้วย Java SE 5.0 ออกแบบมาเพื่อป้องกัน java app ถูก reverse engineering และช่วยในการติดตั้ง Java software โดยไม่ต้องใช้ JRE Excelsior JET ทำงานเข้ากันได้ทั้ง window และ linux platform

Excelsior JET ทำงานโดยการคอมไพล์ Java class และไฟล์ jar ให้เป็น native machine code และสร้าง executable สำหรับ window หรือ linux และยังมี JIT compiler สำหรับจัดการ class ที่ไม่สามารถ precompile ได้ เช่น dynamic proxy class นอกจากนี้ยังมี toolkit เอาไว้สร้าง installer ด้วย

ด้วยการที่ Java app ต้องการ JRE ในการทำงาน การลง JRE ก่อน ซึ่งอาจสร้างสับสนให้ผู้ใช้ และเกิดปัญหาจาก JRE ที่เวอร์ชันต่างกันได้ Excelsior JET ช่วยแก้ปัญหาข้างต้น โดยรวม JRE เข้ากับ application แปลง java code เป็น machine code และสร้าง native executable สำหรับ window หรือ linux โดยไม่ต้องใช้ JRE ซึ่งช่วยเพิ่มความเร็วในการทำงานของ application ได้อย่างมาก และยังสามารถป้องกันการ decompile ได้ด้วย

Excelsior JET 4.5 มี optimizer พิเศษ ทำให้นักพัฒนาสามารถเลือก Java library ที่จะคอมไพล์ native code ได้ ส่วน Java library ที่เหลือจะถูกบีบอัดด้วยอัลกอลิทึมพิเศษ มีผลให้ application มีขนาดลดลงถึง 30-40% ดูรายละเอียดได้ที่ http://www.excelsior-usa.com/jetdownsize.htm

download trial version ได้ที่ http://www.excelsior-usa.com/jetdleval.html

ที่มา http://in.sys-con.com/read/249900.htm

Java ตอบโต้ Java EE ยังอยู่ได้อีกนาน

บิล ร็อธ รองประธานของ BEA Workshop Unit ออกมาตอบโต้ คำสัมภาษณ์ของ Burton Group ที่ว่า JavaEE จะเสื่อมความนิยมเพราะความซับซ้อน และไม่สนับสนุน SOA โดยบอกว่า J2EE จะอยู่คู่กับ enterprise software ไปอีกนาน และที่บอกว่า Java EE จะตายเป็นการกล่าวเกินจริง ความซับซ้อนสร้างโอกาสทางธุรกิจที่ทำอะไรได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ BEA และ vendor อื่นๆ กำลังสร้างเครื่องมือช่วยให้นักพัฒนาทำงานง่ายขึ้น บนความซับซ้อนของ Java EE อยู่แล้ว

ทาง IBM ก็ตอบโต้ว่า ถึงจะมีปัญหาความซับซ้อน แต่ไม่ได้หมายความว่า JavaEE จะต้องสูญพันธุ์

ส่วน JBoss กล่าวว่า ความซับซ้อนของ Java EE platform เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะมันถูกออกแบบมาให้ทำงานทุกแบบครอบจักรวาลตั้งแต่ Ajax Web application ง่ายๆ ไปจนถึง financial services application ที่ต้องรับมือกับ transaction จำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ก็เห็นด้วยที่ว่า J2EE ซับซ้อนเกินไป แต่ Java EE 5 ได้ลดความซับซ้อนลงแล้ว

ขณะที่รองประธานฝ่าย Enterprise Java platform ของ Sun กล่าวว่า เกิดความสับสนระหว่างความซับซ้อนของ platform กับของ programming model ตัว platform และ application server นั้นซับซ้อนอยู่แล้ว แต่ว่า programming model ได้ปรับปรุงให้ง่ายขึ้นในเวอร์ชันล่าสุดแล้ว นักพัฒนาไม่จำเป็นต้องยุ่งกับความซับซ้อน โดยปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ tool

ที่มา http://searchwebservices.techtarget.com/originalContent/0,289142,sid26_gci1201062,00.html

Oracle ออก patch แก้ไขช่องโหว่ 65 แห่ง

Oracle ออก patch เพื่อแก้ไขปัญหา security ในซอฟต์แวร์ของตัวเอง

patch ครอบคลุมปัญหาทั้ง database, application server และ e-business suite นอกจากนี้ patch บางตัวยังแก้ปัญหา software client ที่ใช้กับ Oracle database ด้วย โดยมีช่องโหว่ถึง 23 แห่งใน database server และอีก 4 แห่งใน client ส่วนใน Application Server มี 10 แห่ง E-Business Suite อีก 20 แห่ง Enterprise Manager 4 แห่ง PeopleSoft's Enterprise portal 2 แห่ง JD Edwards software 1 แห่ง และยังมี patch ที่แก้ช่องโหว่ที่ Oracle เผลอปล่อยข่าวออกมาเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาด้วย (http://news.com.com/Oracles+oops+on+security+flaw/2100-1002_3-6060128.html)

ช่องโหว่จำนวนมากเกี่ยวข้องกับ network protocol ที่ใช้ใน Oracle's database ซึ่งเป็น protocol ที่ Oracle พัฒนาขึ้นมา ชื่อว่า Oracle Net

download patch ได้ที่ http://www.oracle.com/technology/deploy/security/critical-patch-updates/cpujul2006.html

ส่วน patch ครั้งต่อไปจะออกวันที่ 17 ตุลาคมนี้

ที่มา http://www.techworld.com/security/news/index.cfm?newsID=6476&pagtype=samechan

OMG ยอมรับ SysML เป็นส่วนหนึ่งของ UML

OMG (Object Management Group) ประกาศยอมรับ SysML (Systems Modeling Language) เป็นภาษามาตรฐานสำหรับออกแบบซอฟต์แวร์โดยจะผูกเป็นส่วนหนึ่งของ UML 2.0

SysML เป็นภาษาโมเดลเชิงแผนภาพ (graphical modeling language) สำหรับกำหนด วิเคราะห์ ออกแบบ และตรวจสอบระบบที่ซับซ้อน ซึ่งมีทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ข้อมูล บุคคล กระบวนการ และทรัพยากรทั้งหมดในระบบ SysML ช่วยวิศวกรระบบ (systems engineer) แทน system requirement ด้วยรูปภาพได้

OMG กล่าวว่า ความสำเร็จของ SysML แสดงถึงความสามารถของ Model Driven Architecture (MDA) ในการนำมาใช้พัฒนาซอฟต์แวร์ การนำ SysML มารวมกับ UML จะช่วยเพิ่มควาสามารถให้ UML ในการวิเคราะห์ระบบที่ซับซ้อน

SysML ใช้ MDA, UML และยังใช้ XMI (XML Metadata Interchange) specification ซึ่งเป็นรูปแบบข้อมูลของแผนภาพ เพื่อให้สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูล หรือใช้แผนภาพ SysML ข้าม tool ได้

การยอมรับ SysML ของ OMG เป็นก้าวสำคัญของวิศวกรรมระบบโดยการใช้โมเดล (model-driven approach) มาช่วยในการพัฒนาระบบ IT ภาษาโมเดลมาตรฐานเหล่านี้สำคัญอย่างยิ่งสำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสารระหว่างนักพัฒนาในทีม ทำให้ tool ต่างๆ สามารถทำงานเข้ากันได้ และเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการระบบที่ซับซ้อนด้วย

ดูเพิ่มเติมได้ที่ http://www.omgsysml.org

ที่มา http://www.eweek.com/article2/0,1895,1985817,00.asp

ทดสอบเว็บแอพพลิเคชันด้วย Parasoft WebKing 5.5

Parasoft ออก WebKing 5.5 เครื่องมือทดสอบเว็บแอพพลิเคชัน โดยจะทดสอบ และวิเคราะห์เว็บแอพพลิเคชันให้แบบอัติโนมัติ ครอบคลุมการทำงาน 4 แบบ คือ Web site risk analysis, functional testing, load and performance testing และ security analysis ช่วยให้นักพัฒนามั่นใจได้ว่าเว็บแอพพลิเคชันมีเนื้อหา ความเชื่อถือได้(reliability) ประสิทธิภาพ และความปลอดภัยตามที่ผู้ใช้ต้องการ

ด้วยการใช้ WebKing 5.5 นักพัฒนาไม่ต้องเขียนสคริปต์ทดสอบด้วยตัวเอง โดยจะมี gui ช่วยสร้างให้ นอกจากนี้ยัง feature ไว้สร้างรายงานแบบ HTML เพื่อแสดง Web application functionality, accessibility, corporate branding security และ standards compliance ให้ด้วย

Parasoft WebKing 5.5 มีเวอร์ชันสำหรับ Windows 2000, Windows XP, Linux และ Solaris ราคาเริ่มต้นที่ 3995 เหรียญ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.parasoft.com/jsp/products/home.jsp?product=WebKing

http://www.eweek.com/article2/0,1895,1986548,00.asp

Oracle อัพเดต PeopleTools สนับสนุน SOA

PeopleTools เป็นภาษาประเภท 4GL* ที่ PeopleSoft คิดขึ้นเพื่อเอาไว้คอสโตไมซ์ ERP suite ของตัวเอง
ล่าสุดที่ Oracle ออกมา คือ เวอร์ชัน 8.48 มีการปรับปรุงให้สนับสนุน SOA และมาตรฐานของเว็บเซอร์วิส
เช่น WSDL,UDDI,WS-Security, BPEL และ WS-Addressing

ความจริงแล้ว PeopleSoft application สามารถใช้เว็บเซอร์วิสผ่าน PeopleTools อยู่แล้ว แต่ต้องใช้
adapter เพื่อเปลี่ยน APIs เป็น WSDL แต่เวอร์ชัน 8.48 นี้เป็นลักษณะ native support ทำให้ไม่ต้องใช้
adapter นอกจากนี้ PeopleTools ยังสนับสนุน Fusion middleware ทั้ง appserver, portal,XML
Publisher และ BPM (business process management) ด้วย

PeopleTools ยังมี change impact analyzer ซึ่งเป็น feature ใหม่ เอาไว้จำลองสถานการณ์ในกรณีใช้
patch หรือ upgrade แอพพลิเคชันด้วย

*4GL(fourth-generation programming language) - เป็นภาษาที่ออกแบบเพื่อจุดประสงค์เฉพาะ เช่น
เพื่อพัฒนาซอฟต์แบร์ทางธุรกิจ หรือการคิวรีฐานข้อมูล เป็นต้น ตัวอย่างก็เช่น ABAP, SQL ,SPSS เป็นต้น (http://en.wikipedia.org/wiki/4GL)

ที่มา http://www.cbronline.com/article_news.asp?guid=6882DA45-D161-4DDC-B622-8A

IBM ออกโซลูชันสำหรับผู้ใช้ Oracle's JD Edwards

IBM ออกโซลูชันใหม่สำหรับ small and medium business (SMB) ที่ใช้ Oracle's JD Edwards EnterpriseOne application โซลูชันนี้เน้นที่ราคาถูกเพื่อให้เหมาะกับ smb แต่ก็รองรับผู้ใช้ได้ไม่เกิน 100 คนเท่านั้น

โซลูชันนี้พัฒนาบน System i business computing platform(www-03.ibm.com/systems/i) ซึ่งประกอบด้วย hardware ,software และ disk storage เพื่อรองรับการใช้งาน application สำหรับผู้ใช้ 100 คนโดยเฉพาะ

System i Solution Edition นี้ช่วยให้ลูกค้าจัดการระบบ IT ง่ายขึ้น โดยใช้ความรู้ด้านเทคนิคน้อยลง ราคาถูก นอกจากนี้สามารถใช้ร่วมกับ radio frequency identification (RFID) ได้ด้วย

IBM System i 520 Solution Edition สำหรับ Oracle's JD Edwards EnterpriseOne application จะออกขายวันที่ 11 สิงหาคมนี้ ราคาเริ่มต้นที่ 21,921 เหรียญ ดูรายละเอียดเพิ่มได้ที่ www.ibm.com/systemi

ที่มา http://smeit.com.sg/ShowPage.aspx?pagetype=2&articleid=3914&pubid=3&tab=Home&issueid=92

SweetDEV RIA 1.0

Ideo Technologies ออก SweetDEV RIA 1.0 เครื่องมือพัฒนา Rich Internet Application(RIA) สำหรับ J2EE platform

SweetDEV RIA ประกอบด้วย Ajax tag เพื่อช่วยนักพัฒนาสร้าง rich GUI ในเว็บแอพพลิเคชัน โดยมี widget ให้ใช้มากมาย เช่น Datagrid, Combo multi-select, Virtual window, Click to open, Expand/Collapse, Excel export, Treeview, Calendar, Menu, Tabsheet เป็นต้น นอกจากนี้ตัว Datagrid เองยังมี feature สำคัญอื่นๆอีก คือ
-Drag and drop columns resizing
-Automatic datagrid resizing
-Fast scroll datasets
-Columns multisorting,
-Line with expand / collapse to show/hide details,
-Excel Export,
ฯลฯ
SweetDEV ใช้ร่วมกับ JSP page ,Struts และ JSF framework ได้ และไม่จำเป็นต้องมีเชี่ยวชาญ JavaScript ก็ใช้ได้

download มาใช้ได้ที่ http://www.sweetdev-solutions.com

ที่มา http://opensource.sys-con.com/read/246388.htm

สร้าง service repository ด้วย CentraSite

Fujitsu Computer Systems และ Software AG ร่วมมือกันพัฒนา service repository สำหรับเก็บข้อมูลเกี่ยวกับ service(metadata) ขององค์กรเพื่อที่แต่ละแผนกในองค์กรสามารถใช้ service หรือ business process ร่วมกันได้ registry จะเก็บข้อมูลของ business process ไว้ ช่วยให้นัก พัฒนาค้นหา และ reuse เซอร์วิสเหล่านี้ได้โดยง่าย เรียกว่ารองรับแนวคิด SOA เต็มๆ

repository นี้ชื่อว่า CentraSite(http://www.softwareag.com/Corporate/products/centrasite/default.asp) เป็น metadata repository เพื่อรองรับ service-oriented architecture (SOA) platform โดยเฉพาะ
CentraSite Enterprise Edition มี UDDI v3.0 search โดยใช้ metadata model ในการค้นหา service , JAXR interface สำหรับติดต่อกับ UDDI registry, WebDAV ไว้ติดต่อ SOA repository, reporting modules, AJAX interface และ Eclipse Registry Browser เรียกได้ว่า CentraSite เป็น private UDDI registry (private หมายถึงใช้เฉพาะในองค์กร ถ้า public ใครๆก็ใช้ได้ เช่น XMethod ของ IBM) แบบพิเศษก็ว่าได้

CentraSite ถูกออกแบบให้ทำงานร่วมกับ Fujitsu Interstage Suite, Software AG's crossvision SOA suite และ SOA solution จากค่ายอื่นๆแต่ยังไม่แน่ชัดว่าจะใช้ได้กับ SAP AG และ Oracle หรือไม่

ที่มา http://www.informationweek.com/news/showArticle.jhtml?articleID=190302281

ผลสำรวจชี้องค์กรกว่า 90% เริ่มใช้ SOA

Aberdeen benchmark ทำการสำรวจพบว่าบริษัทถึง 9 ใน 10 เริ่มนำ SOA มาใช้แล้ว ทั้ง SOA planning, design และ programming โดยการสำรวจจากผู้เชี่ยวชาญด้าน IT และธุรกิจกว่า 120 บริษัท พบว่า SOA เติบโตอย่างต่อเนื่อง และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางโดยเฉพาะในองค์กรขนาดใหญ่ (องค์กรที่รายได้อย่างน้อย 1 พันล้านเหรียญต่อปี) โดย SOA ถูกมองว่าเป็น technology ที่มาช่วยแก้ปัญหา integration โดยเฉพาะที่เกิดขึ้นในองค์กรขนาดใหญ่ได้

อย่างไรก็ตามก็พบว่า 40% ของงบประมาณสำหรับ IT หมดไปกับ การ redesign business process, IT integration และ customizationนั่นคือ SOA ยังใช้ต้นทุนที่สูงพอสมควรทีเดียว

การสำรวจพบว่าองค์กรต่างๆ มีแนวทางการใช้ SOA อยู่ 3 วิธี คือ
-SOA "Lite" : วิธีนี้ใช้ open-source programs และ industry standard เป็นเครื่องมือในการ implement เหมาะสำหรับบริษัทขนาดเล็ก มี
integration ไม่มาก และใช้ Web service ง่ายๆ
-Enterprise SOA: ใช้ SOA middleware กับงานที่สำคัญมากๆ (mission-critical) และมี installation ที่ซับซ้อน เหมาะสำหรับบริษัทขนาด
กลางถึงใหญ่
-SOA ERP : วิธีนี้ใช้กับบริษัทขนาดกลางถึงใหญ่ จะใช้ SOA เป็น extension ของ ERP application software

นอกจากนี้ผลการสำรวจยังบอกอีกว่า การใช้ SOA middleware ในช่วงกลางปี 2006 ที่ผ่านมา เน้นไปที่การใช้ enterprise services buses(ESBs) ซึ่งเป็น middleware สำหรับเชื่อมต่อ และจัดการ business process

ที่มา http://www.linuxelectrons.com/article.php/20060714142211576

สร้าง Java Web Apps ด้วย Visual Basic และ JavaScript!!

feature สำคัญของ Java 6(Mustang) ซึ่งตอนนี้เป็น beta อยู่ คือ สนับสนุนภาษาอื่นให้ทำงานบน JVM ได้
เป้าหมายแรกอยู่ที่ JavaScript โดยทำให้ JavaScript เรียกใช้ library ของ Java และ Java ก็สามารถ call back ไปยัง JavaScriptได้ภายใน application เดียวกัน

ในงาน JavaOne วันอังคารที่ผ่านมา Sun ประกาศ 2 project ใหม่ คือ
1. Project Semplice เป้าหมายเพื่อเอา Visual Basic language มารันบน Java platform โดยเอา code VB มา compile เป็น Java class เพื่อรันบน Java 6 VM
ในงานมีการแสดงตัวอย่างโดยใช้ pre-release version Java Studio Creator เพื่อสร้าง web app ด้วย JSF ที่เขียน backing-bean ด้วย VB
ซึ่ง code VB นี้สามารถเรียกใช้ JSF component อื่นที่เขียนด้วย JAVA ได้ด้วย

2.Project Phobos (https://phobos.dev.java.net/) มีเป้าหมายเพื่อให้เขียน server-side application logic ด้วย JavaScript ได้
โดยจะแทรกใน html(เหมือนกับ php หรือ jsp) หรือแยกออกมาเป็น "helper" script ก็ได้

เมื่อทั้ง 2 project นี้สมบูรณ์ developer จะมีทางเลือกในการพัฒนา web app มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันก็มี framework มากมายอยู่แล้ว
ดู demo ต่างๆ ในงาน JavaOne ได้ที่ http://java.sun.com/javaone/sf/sessions/general/index.jsp

ที่มา http://www.sitepoint.com/blogs/2006/05/19/write-java-web-apps-in-visual-basic-or-javascript/

นักวิเคราะห์ชี้ Java EE อยู่ได้ไม่เกิน 5 ปี

นักวิเคราะห์ชี้ Java EE อยู่ได้ไม่เกิน 5 ปี เพราะ SOA และ ความซับซ้อนของ Java EE เอง

Richard Monson-Haefel นักวิเคราะห์ของ Burton Group (www.burtongroup.com)และผู้แต่งหนังสือ J2EE Web Services บอกว่า 5 ปีถัดจากนี้ Java EE จะไม่เป็น platform หลักในการพัฒนา application อีกต่อไป นายคนนี้ให้เหตุผลว่า Java EE platform มีความซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ เกินกว่าที่นักพัฒนาจะเอาไปใช้ได้ หลายฝ่ายจึงหันไปใช้ Ruby-on-Rails แทน ในไม่ช้า Java EE จะหายไปจากตลาดเหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับ CORBA(Common Object Request Broker Architecture) ซึ่งสุดท้ายก็ไม่มีใครสนับสนุน และใช้อีกต่อไป

Monson-Haefel ไม่ใช่คนเดียวที่พูดแบบนี้ Jason Bloomberg นักวิเคราะห์ ZapThink(www.zapthink.com) กล่าวว่า ทุกครั้งที่ Java EE ออกเวอร์ชันใหม่ หรือมีการเพิ่ม module มันเป็นเพียงเพิ่มความซับซ้อนเท่านั้น สุดท้ายมันจะพังลงมาด้วยน้ำหนักของตัวเอง Jason Bloomberg ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญ SOA และ Web services ยังบอกด้วยว่า SOA จะเป็นปัจจัยที่ทำให้ Java EE หมดความสำคัญลง เพราะ Java EE ไม่ได้ถูกสร้างเพื่อรองรับ SOA โดยเฉพาะ Java มีหลายองค์ประกอบทั้ง OO programming language, virtual machine และ Java EE แต่ว่าสิ่งเหล่านี้ไม่เหมาะสมกับ SOA platform เลย

Object orientation (OO) ที่ใช้ใน Java EE ไม่เหมาะกับ service orientation ที่เป็นหัวใจของ SOA ในมุมมองของ OO นั้น service และ service instance เป็นสิ่งเดียวกัน ขณะที่ object instance เป็นเพียงสิ่งเล็กๆใน SOA เท่านั้น virtual machine ก็ไม่เหมาะกับ SOA เพราะ virtual machine มีเป้าหมายเพื่อ code portability(เขียน code ครั้งเดียวทำงานได้ทุกที่) ขณะที่ SOA มีเป้าหมายที่ interoperability (การทำงานร่วมกันได้ของระบบที่ต่าง platform กัน) นั่นคือ portable code อาจช่วยให้รัน code ได้หลายที่(window หรือ linux) แล้วใช้ RMI เรียกเอา แต่ SOA แลกเปลี่ยนข้อมูลผ่าน interface ซึ่งผู้รับ-ส่ง จะเป็น java code หรือไม่ก็ได้ ดังนั้น portable code จึงแทบไม่มีความสำคัญอีกต่อไป

Monson-Haefel ยังบอกด้วยว่า service orientation ยังทำให้ความจำเป็นที่ต้องมี platform เดียว เช่น Java EE หมดไปอีกด้วย SOA และ web service แทบไม่สนว่า backend จะทำงานด้วยอะไร แต่เน้นไปที่ interface ที่ใช้ติดต่อกัน เช่น xml หรือ http

ข่าวนี้ก็ฟังหูไว้หูละกันนะครับ

ที่มา http://searchwebservices.techtarget.com/originalContent/0,289142,sid26_gci1198211,00.html

เก็บ Object ลงฐานข้อมูลด้วย Perst

Perst เป็นฐานข้อมูลแบบฝังตัว (embedded database) ขนาดเล็ก โดยเก็บข้อมูลในรูป Object ซึ่งสนับสนุนทั้งภาษา Java และ C# นักพัฒนาสามารถนำ Perst มารวมกับ application ได้ คล้ายกับ JavaDB

Perst ต่างจาก database ทั่วไปที่เป็น O/R database หรือต้องใช้ O/R mapping Perst สามารถเก็บข้อมูลในรูป Java/C# object ได้โดยตรง ซึ่งช่วยลด overhead ในการ map ข้อมูลได้อย่างมาก
Perst ยังมี API ที่สะดวก ใช้ง่าย และยืดหยุ่น นอกจากนี้ยังมีขนาดเล็ก โดยตัว engine มีขนาดเพียง 5000 loc(line of code) และตอนทำงานก็ใช้ memory เพียง 30K ถึง 300K เท่านั้น Perst ยังสนับสนุน transaction และการกู้ข้อมูลด้วย

Perst สร้างโดยบริษัท McObject ซึ่งก่อตั้งโดยผู้เชี่ยวชาญด้าน embedded database และ real-time system มีลูกค้ารายใหญ่หลายราย เช่น Motorola, Boeing, DaimlerChrysler, EADS, JVC, Tyco Thermal Controls, F5 Networks และ Genesis Microchip

ดูรายละเอียดเพิ่มได้ที่ http://www.mcobject.com/perst/

ที่มา http://www.prweb.com/releases/2006/7/prweb409449.htm

SMB เลือกใช้ Oracle มากกว่า SAP

ธุรกิจขนาดเล็ก และขนาดกลาง(small and middle business:SMB) เลือกใช้ Oracle มากกว่า SAP เพื่อสร้าง application ที่ยืดหยุ่น scalabel
และราคาไม่แพงเกินไป บริษัทที่ว่ามาก็เช่น Amylin Pharmaceuticals, Carter & Burgess, Da Stuart Company, Haemonetics,
Humanscale, Thales Corp., Town Sports International and Riverbed Technology

บริษัทเหล่านี้เลือก Oracle หลังจากประเมินแล้วว่า Oracle มีความเชี่ยวชาญ software ในงานหรือธุรกิจเฉพาะด้าน , deployment ที่รวดเร็ว และต้นทุนที่ต่ำกว่า SAP
Oracle Application ช่วยให้กระบวนการธุรกิจ (business process) ขององค์กรสามารถขับเคลื่อน และเชื่อมโยงกันได้ Oracle เสนอการจัดการ
อย่างมีประสิทธิภาพในงานธุรกิจต่างๆ เช่น customer interactions, financial management, human resources และ supply chain
management

นอกจากนี้ยังมี Oracle Fusion for SAP (OFF SAP) ซึ่งทำให้ลูกค้าหันมาใช้ Oracle มากขึ้น โดยเสนอ solution แก่ลูกค้าที่ใช้ SAP
R/3 แต่ต้องการเปลี่ยนมาใช้ Oracle application ทั้งนี้ SAP ต้องการให้ลูกค้า upgrade จาก SAP R/3 เป็น mySAP ERP หรือ mySAP
Business Suite เพื่อ implement application ใหม่ ทำให้ลูกค้าต้องเสียค่าใช้จ่าย และเวลาเป็นอันมาก ซึ่งนับเป็นโอกาสของ Oracle ที่จะแย่ลูกค้า
SAP มาได้

ที่มา http://www.noticias.info/asp/aspComunicados.asp?nid=198933&src=0

Oracle support ลูกค้า Red Hat

Oracle เริ่มขยายฐานธุรกิจสู่ตลาด Linux โดยเสนอการ support ให้ลูกค้า Red Hat Oracle บอกว่ามีเป้าหมายที่ลูกค้าของ Red Hat โดยเสนอการ support Linux Red Hat ที่ดีกว่า ราคาถูกกว่า Red Hat ทำ และลูกค้าของ Red Hat เริ่มไม่พอใจกับการ support ของ Red Hat ด้วย

เมื่อต้นปีที่ผ่านมา Oracle บอกว่าต้องการมี OS ของตัวเองเมื่อให้ผลิตภัณฑ์ของตัวเองครอบคลุม software ทุกระดับชั้น(complete stack) แต่เมื่อเดือนที่ผ่านมากลับประกาศว่า Oracle ไม่ต้องการสร้าง OS ใหม่ หรือพัฒนา Linux ของตัวเอง เพราะว่าไม่ต้องการให้ Linux มีเวอร์ชันหลายมากเกินไป

การแย่งฐานลูกค้าของ Red Hat ครั้งนี้ อาจเป็นจุดเปลี่ยนยุทธศาสตร์ของ Oracle ซึ่งก่อนหน้านี้มักมีร่วมมือกับ Red hat เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการสนับสนุนให้ลูกค้าของตัวเองใช้ Red Hat อย่างไรก็ตาม การที่ Red Hat ซื้อ JBoss ถูกมองว่าเป็นการเคลื่อนไหวเพื่อแข่งขันกับบริษัท software ขนาดใหญ่ อย่างเช่น Oracle ขณะที่ Oracle เองก็มีข่าวว่าพยายามจะซื้อ Novell ผู้ผลิต SuSE ซึ่งเป็นคู่แข่งของ Red Hat เช่นกัน

ที่มา http://www.itp.net/news/details.php?id=21250&category=

MyEclipse 5.0 ออกแแล้ว

Genuitec ออก MyEclipse 5.0 แล้ว สนับสนุน Eclipse 3.2 MyEclipse เป็น Eclipse plug-in สำหรับพัฒนา Web application โดย version นี้สนับสนุน AJAX, JavaServer Pages และ Struts ด้วย

จุดเด่นของ version 5 คือ มี Matisse4MyEclipse สำหรับสร้าง user interface ซึ่งพัฒนามาจาก NetBeans Matisse technology ช่วยให้สร้าง UI เร็วขึ้นนอกจากนี้ยังมี framework สำหรับพัฒนาเว็บเซอร์วิสโดยใช้ wizard ด้วย ซึ่ง framework นี้พัฒนามาจาก XFire (http://xfire.codehaus.org/) SOAP framework

feature อื่นๆ ก็มี
-สนับสนุน Microsoft SQL Server และ Sybase database รวมทั้งใช้ trigger และ stored procedure ได้ด้วย
-สามารถแก้ไขข้อมูลใน database table ได้โดยตรง และแก้ไขได้หลาย table พร้อมกัน
-มีเครื่องมือออกแบบเว็บ (visual Web designer tool) บน Linux และ Mac OS X

MyEclipse 5.0 ราคา 31.75 เหรียญสำหรับ standard edition ส่วน professional edition ซึ่งมีเครื่องมือหลายอย่างเพิ่มมาเช่น JavaScript debugger และ UML ราคา 52 เหรียญ

ที่มา http://www.computerworld.com.au/index.php/id;1020890348;fp;4;fpid;1968336438

YAWL -- Yet Another Workflow Language

YAWL (Yet Another Workflow Language : http://www.yawl.fit.qut.edu.au) เป็น open-source workflow language หรือภาษาสำหรับกำหนดกระบวนการทางธุรกิจ คล้ายภาษาบีเพล (BPEL) YAWL project ก่อตั้งโดยทีมวิจัยของมหาลัยควีนส์แลนด์(Queensland University)

YAWL เป็น solution เกี่ยวกับ BPM (businesss process management) หรือการจัดการ และควบคุมกระบวนการทางธุรกิจ YAWL มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนการกำหนด วิเคราะห์ และ execute กระบวนการทางธุรกิจ (businesss process : bp) และช่วยให้การกำหนด bp ง่ายขึ้นโดยตัดส่วนเทคนิคที่ไม่จำเป็นในการสร้าง bp ออกไป เพื่อให้ business analyst (BA) สามารถสร้าง bp ได้ด้วยตัวเอง โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพา programmer bp ที่ได้จึงเหมาะสม และตรงตามเป้าหมายขององค์กรมากที่สุด

YAWL ประกอบด้วย open source engine และ GUI editor ซึ่งเขียนด้วย Java ทั้งคู่ YAWL ใช้ XML Schema, XPath, XQuery และ XForms เพื่อจัดการข้อมูล นอกจากนี้สนับสนุน SOAP, WSDL และการสร้าง dynamic workflow(การกำหนด web service ที่จะเรียกใช้ตอน run time) ด้วย YAWL จึงเป็นเครื่องมือช่วยในการพัฒนา soa นั่นเอง

ที่มา http://www.computerworld.com.au/index.php/id;396496377;fp;16;fpid;0

Oracle วางแผนซื้อบริษัทในเอเชีย

Oracle วางแผนเตรียมซื้อบริษัทซอฟต์แวร์ในเอเชีย เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาด และเอาชนะ SAP ให้ได้ โดยในตลาดซอฟต์แวร์จัดการธุรกิจ(business-management software) SAP ครองส่วนแบ่งมากกว่า Oracle ถึง 24.3 พันล้านเหรียญ

Oracle บอกว่า กำลังสนใจหลายบริษัทในเอเชีย และวางแผนเตรียมซื้ออยู่ และยังบอกอีกว่าอะไรในโลกนี้ถ้าซื้อได้ ก็จะซื้อให้หมด (กะจะครองโลกหรือไง) ที่ผ่านมา Oracle ใช้เงินกว่า 19 พันล้านเหรียญ เพื่อซื้อบริษัทต่างๆ ในการต่อกรกับ SAP ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดในเอเชียถึง 72% ในปี 2005 ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีคู่แข่งในเอเชียที่สำคัญอย่างบริษัท Tata Consultancy Services(www.tcs.com/) ของอินเดียอีกด้วย ซึ่งเป็นบริษัท ซอฟต์แวร์ของอินเดียที่กำลังเติบโตขึ้นเรื่อย และที่สำคัญมีต้นทุนที่ถูกกว่า

ตรงข้ามกับ SAP ซื้อแต่บริษัทเล็กๆ เพื่อเพิ่มเทคโนโลยีที่ตัวเองไม่มีเท่านั้น SAP บอกว่าการซื้ออย่างบ้าเลือดของ Oracle ทำให้ลูกค้ากังวลเกี่ยวกับอนาคตของซอฟต์แวร์ที่พวกเขาใช้กันอยู่ และผลักดันให้หันมาใช้ SAP แทน

ในช่วงไตรมาสที่ 4 Oracle มียอดขายในเอเชียเพิ่มขึ้น 27% หรือ 684 ล้านเหรียญ เมื่อเทียบทั้งปีเพิ่มขึ้น 18% หรือ 2.02 พันล้านเหรียญ Oracle ยังถือหุ้นของบริษัท I-Flex Solutions ซึ่งเป็นบริษัทของอินเดียอยู่ 51% อีกด้วย

ที่มา http://www.bloomberg.com/apps/news?pid=20601103&sid=aE4n3Ozt9nXU&refer=us

IDC สำรวจหลายบริษัทต้องการใช้ SOA

จากการสำรวจของ IDC รายงานว่ามีหลายบริษัทกำลังวางแผนลงทุนกับ service-oriented architecture (SOA) มากขึ้น โดยเฉพาะ software ที่เกี่ยวกับการจัดซื้อ บริษัทที่สำรวจส่วนใหญ่มองว่า SOA เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับระบบ IT และยุทธศาสตร์ทางธุรกิจ

นอกจากนี้ หลายบริษัทกำลังหา service vendor เพื่อช่วยบริษัท implement สถาปัตยกรรมระบบ(architecture)
IDC บอกว่า vendor ต่างๆต้องแสดงประโยชน์ และให้ความรู้เกี่ยวกับ SOA แก่ลูกค้าให้มากกว่านี้ รวมทั้งให้แนวทางในการใช้ด้วย

IDC ยังบอกอีกว่า หลายบริษัทพบว่า การพยายาม implement SOA ด้วยตัวเองทั้งหมดเป็นเรื่องที่ยากมากๆ จนเกือบเป็นไปไม่ได้เลย service vendor จึงมีบทบาทอย่างยิ่งในความสำเร็จของการใช้ SOA ของบริษัทต่างๆ

ที่มา http://www.mikrofax.com/news/Firms-looking-to-SOA-investment/430021572/17270202.html

Oracle กับภารกิจรวม software สร้าง Fusion middleware

Oracle ได้ซื้อบริษัทอื่นๆมากมายในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา บริษัทที่มีชื่อเสียง และใหญ่สุดคงหนีไม่พ้น PeopleSoft, JD Edwards และ Siebel แน่นอนว่าลูกค้าของบริษัทเหล่านี้ย่อมรู้สึกไม่มั่นใจว่า Oracle จะทำยังไงกับบริษัทที่ซื้อมา ลูกค้าหลายเจ้าจึงหนีไปหาบริษัทคู่แข่งอย่าง SAP Oracle จึงต้องพยายามรักษาลูกค้าไว้ โดยเมื่ออาทิตย์ก่อนประกาศ Project Genesis เพื่อรวม Oracle-Siebel ซึ่งจะเสร็จภายในเดือนกันยายน นอกจากนี้ยังได้ออก PeopleSoft Enterprise 9 ที่สามารถทำงานร่วมกับ Oracle technology ได้ดีขึ้น เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าของ PeopleSoft

จะเห็นได้ว่าการควบรวมกิจการต่างๆของ Oracle ก็สร้างปัญหาให้ Oracle ไม่น้อย ทาง SAP เองก็อ้างว่ามีลูกค้าของบริษัทที่ Oracle ซื้อไปกว่า 100 ราย หันมาใช้ SAP แทน อย่างไรก็ตาม Oracle ก็ไม่สะทกสะท้านมากนัก เพราะ Oracle มีรายได้จาก application license ในช่วงไตรมาสที่ 4 เพิ่มขึ้นถึง 83%
หรือ 641ล้านเหรียญ แค่ Siebel อย่างเดียวก็ได้ถึง 81ล้านเหรียญ มากกว่าที่บริษัทประมาณการณ์ไว้ถึง 2 เท่า

Project Genesis เป็นความพยายามของ Oracle ที่จะเชื่อมการทำงานระหว่าง Siebel และ Oracle E-Business Suite applications(EBS) นั่นคือ Siebel Order กับ EBS Order, Siebel Opportunity กับ EBS Quote, Siebel Business Analytics กับ Oracle Financial Services Applications analysis software และ Siebel's CRM On Demand apps กับ Oracle EBS technology ทั้งหมดจะรวมเข้ากับ Oracle's Fusion middleware

อย่างไรก็ตาม Project Genesis เป็นเพียงการเชื่อมต่อระหว่าง application เพียงชั่วคราวเท่านั้น ทาง Oracle ได้ประกาศในการประชุม Oracle Application User Group เมื่อเดือนเมษาฯ ที่ผ่านมาว่า Oracle จะยังคง support E-Business Suite,PeopleSoft, JD Edwards และ Siebel application ต่อไป
จนถึงปี 2013 เป็นอย่างน้อย การรวม application ต่างๆ เป็นการเตรียมความพร้อมให้ลูกค้าสำหรับ Fusion middleware โดย Oracle มีเป้าหมายจะรวม application ต่างๆที่ซื้อมา เข้าไว้ใน Fusion ทั้งหมดเมื่อการกำหนดมาตรฐานข้อมูล, business process และ middleware semantic สำหรับ app เหล่านี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว

นอกจาก PeopleSoft Enterprise 9 แล้ว Oracle ยังเตรียมจะออก Learning Management 9.0, PeopleSoft Enterprise Performance Management,PeopleSoft Financial and Human Capital Management ภายในปีนี้เพื่อตอกย้ำความมั่นใจให้ลูกค้าอีกด้วย

ผู้ใช้ PeopleSoft, JD Edwards และ Siebel software ต่างเรียกร้องให้การ upgrade ไปยัง Fusion นั้นทำได้ง่าย และ Project Genesis คือก้าวแรกของคำตอบนั้น Oracle จะทำได้แค่ไหนคงต้องรอดูกันต่อไป

ที่มา http://www.informationweek.com/shared/printableArticle.jhtml?articleID=189900021